วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

True file & directory of registry in windows system & registry component (Basic Registry Page 1.)


 



1.True File & Directory of Registry in Windows System & Registry Component 2. 5 Root key in Registry
3. Value format in Registry & how to write Value data each type. 4. How to use Menu function & Shortcut key in registry Editor
5. Create & editing Registry with Notepad or Wordpad(Create File.reg) 6. Writing Value & Value data in file.reg with Notepad or WordPad
7. Delete Key , Value & Value data in registry with Notepad or Wordpad(File.reg) 8. Notepad WordPad : Toy or Magic? (Review & Info Editor Software)

Basic Registry Page 1.

True File & Directory of Registry in Windows System & Registry Component.


เนื้อหาในบท

A. Folder(Directory)ที่เก็บ Fire การตั้งค่าต่างๆของ Registry อยู่ที่ไหน?

B. 7 วิธีของการเรียกใช้โปรแกรม Registry Editor

C. องค์ประกอบหลักของ Registry และ โปรแกรม regedit



Basic Registry Page 1.


REGISTRY (ภาษาบ้านๆแปลว่า การจดทะเบียน,หอทะเบียน สำเนียงไทยบางท่านก็อ่านว่า รีจิสตรี้) ถ้าพูดให้มองเห็นภาพ Registry(เรจ-จิสทรี) ก็เปรียบเสมือนลักษณะทางพันธุกรรมของวินโดว์,เป็นฐานข้อมูลกลาง, เป็นที่เก็บการตั้งค่าสภาพแวดล้อมทุกอย่าง ทุกการตั้งค่าที่เกิดขึ้นและประกอบกันมาเป็น Computer ที่ติดตั้งระบบ Windows ทั้งในส่วนของ Software และ Hardware (ต่อไปจะขอเรียกสั้นๆว่า "reg")

reg เป็นเหมือนดาบ2คมครับ เป็นได้ทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของ Windows OS ถ้าคุณไม่รู้เรื่องเลย หรือรู้แบบสั่วๆ แล้วเข้าไปยุ่งกับมันอย่างใดอย่างหนึ่ง คุณก็อาจจะเป็นผู้โชคดี ที่ได้ลงวินโดว์ตัวใหม่ (หลายคนชอบอะไรที่มันใหม่ๆ ได้ลงวินโดว์ใหม่ก็ต้องดีสินะ) หรือถ้าคุณมีความรู้ในเรื่องของ reg เป็นอย่างดีแล้ว คุณจะรู้ว่าสภาพคล่องในการใช้งาน การรักษาความปลอดภัย รวมถึงการปลดปล่อยขุมกำลังสูงสุดของ Windows นั้น การเข้าไปปรับแต่ง reg ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่แสนจะบันเจิด(ดีกว่าเสียเงิน Up Grande Hardware เป็นไหนๆ)

A. Folder(Directory)ที่เก็บ Fire การตั้งค่าต่างๆของ Registry อยู่ที่ไหน?

Pic1 Folder and search options.เพื่อให้คุณผู้อ่านได้เห็นกันแบบเต็มตา ทุก File แบบไม่ขาดตกบกพร่องผมแนะนำให้ทำตามนี้ครับ
Win7 กด Key windows_-button_thumb2 + e (Open computer) คลิกที่ Organize > Folder and search options > View Tab จากนั้นให้คุณเลือกตามรูป (Pic1.)
Win8 กด Key windows_-button_thumb2[1] + e ที่ Ribbon เลือกที่ View Tab > 
คลิกที่ Icon 
open_folder_option_win8 > View tab
triangle เลือก Show hidden files, folders, and drives
triangle[1] เอาเครื่องหมายถูกออกจาก check box ที่หัวข้อ Hide protected operating system files [Recommended] : ข้อนี้มีความหมายว่า ซ่อน File ที่ระบบป้องกันไว้[แนะนำ]ส่วนใหญ่จะเป็น File ที่สำคัญต่อระบบ (ให้คุณติ๊กออกชั่วคราวก่อน เมื่อดู File reg เสร็จแล้วก็กลับมาติ๊กถูกเหมือนเดิม) .....เสร็จแล้วกด OK จะมี Dialog box ขึ้นมาถาม ให้กด OK

เราสามารถเข้าไปยังที่เก็บ File reg ได้หลายวิธีครับ คุณจะเลือกวิธีไหนก็ได้
1. เปิดโฟลเดอร์ไปตามปกติ ก็ให้คุณคลิกไปตามPath นี้C:\Windows\System32\config 
2. ให้คุณ Copy 
C:\Windows\System32\config หรือ %systemroot%\system32\config จากนั้นนำไป Paste ที่ ..
2.1 Run Dialog(กด windows key + r) > กด Enter
2.2 Start Search(Vista, 7) > กด Enter
2.3 Address bar จากข้างในโฟลเดอร์ไหนก็ได้ > คลิกลูกศร หรือ กด Enter
Run Dialog, Start-Search & Address bar



Folder ที่เก็บ File ทั้งหมดของ reg ก็จะเปิดมาให้เรายลโฉม...
สีฟ้าคือ WinDows8 (DP 64bit) ส่วนสีดำคือ WinDows7(Ultimate64bit) (
Pic 3.)
Pic3. C:\Windows\system32\config(Win7&8)
และจากภาพตัวอย่าง มันสามารถลบคำกล่าวที่ว่า"ถ้าWindows มี Registry มากจะทำให้มัน Boot ช้า และการทำงานอื่นๆก็ช้าลงด้วย” คำกล่าวที่ว่านี้ไม่ถูกต้องเสมอไป ช้า,ไว,อือ, ไม่อืด ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆอย่างรวมกัน เหตุที่ผมกล้าพูดอย่างนั้นก็เพราะจากรูป คุณจะเห็นว่า Win8(ภาพที่คุณเห็นคือ Windows 8 CP) มีจำนวนไฟล์ reg มากว่า Win7 ถึง2.83เท่า แต่จากการใช้งานจริงมันกลับไวกว่า Win7อย่างเห็นได้ชัด ใช้งานง่ายกว่า Win7 อีกต่างหาก
เราไม่สามารถแก้ไขอะไรโดยตรงกับไฟล์ reg ที่เห็นอยู่นี้ได้ครับ (หรือว่าได้ก็ไม่รู้บังเอิญผู้เขียนเองก็ไม่ได้เป็นญาติฝ่ายไหนกับบิล เกตต์) แต่จะจัดการปรับแต่ง, แก้ไข reg ได้โดยผ่านทางโปรแกรม Registry Editor







 

B. วิธีเปิดโปรแกรม Registry Editor

C:\Windows\regedit.exe1.โปรแกรม Registry Editor จะถูกเก็บไว้ที่ C:\Windows\regedit.exe ซึ่งคุณสามารถเข้าไป Double click เพื่อเปิดโดยตรงได้
2. กด Windows Key + r (เปิดRun Dialog) > พิมพ์ regedit > OK > Yes ( xp.vista,7,8)
3. พิมพ์ regedit ที่ Address bar ( xp.vista,7,8)
4. พิมพ์ regedit ที่ Start screen (win8)
5. คลิกขวา ที่มุมซ้ายล่าง คลิกเลือกที่> Run หรือ Search(ใช้ตัวเลือกไหนก็ได้) จากนัันพิมพ์คำว่า Regedit (win8)
6. พิมพ์ regedit ที่ข่อง Start Search (vista, 7)
7. คลิกขวาบนที่ว่าง ของ Desktop (หรือใน Folder ก็ได้) เลือก > New > Shortcut > ที่ช่อง Type the location of the item : ให้คุณพิมพ์ regedit จากนั้นคลิก Next > ที่ช่อง What would you like to name the Shortcut? ตั้งชื่อของ Shortcut เป็นชื่ออะไรก็ได้(ถ้าต้องการ) > คลิก finish จากนั้นก็ Double Click ที่ Icon ที่หน้า Desktop ได้เลย
- คุณสามารถใช้วิธีการในข้อ 7. นี้สร้าง Shortcut ให้กับโปรแกรม หรือ ส่วนติดต่ออื่นๆของระบบก็ได้เหมือนกัน เช่น Control Panel, cmd, msconfig, notepad, osk(On screen keyboard)เป็นต้น
Search regedit.exe in Drive C:8. คลิกขวาที่ Taskbar > Task Manager > คลิกที่ File > Run new take > จะขึ้น Dialog box Create new take จากนั้นพิมพ์คำว่า regedit (XP,Vista ,7, 8)
- Win8 ถ้าคุณคลิกขวา ที่มุมซ้ายล่าง ก็จะมี Task Manager ให้คุณเลือกเหมือนกัน
- XP, Vista, 7: จะใช้คำว่า New take(Run…)
- คุณสามารถใช้วิธีการในข้อ 8. นี้เปิดโปรแกรม หรือ ส่วนติดต่ออื่นๆของระบบก็ได้เหมือนกัน เช่น cmd, msconfig, Control Panel, notepad, osk(On screen keyboard)เป็นต้น
9. พิมพ์ regedit.exe ลงใน Search box ของ Drive C:( Vista,7,8) อันที่จริงคุณพิมพ์แค่ คำว่า regedit ก็ได้ แต่การค้นหาจะช้าว่านิดหน่อย Pic4.







C.องค์ประกอบหลักของ Registry และ โปรแกรม regedit (Pic 5.)

 Registry Editor Component.1. ลักษณะโครงสร้างหลักของ reg นั้น มีการแยกหมวดหมู่ออกเป็น 5 Rootkey(5คีย์หลัก)ซึ่งผมจะอธิบายรายละเอียดที่Page 2.
2. Rootkey ทั้ง 5 ของ reg เมื่อรวมกันทั้งหมด เราจะเรียกว่า Registry Hive ครับ H ตัวแรกก็ย่อมาจาก Hive(รังผึ้ง)นี่แหละ สำหรับผู้อ่านท่านใดที่ยังไม่รู้ต่อไปให้อ่านว่า...ไฮฟ_คีย์ นะครับอย่าไปอ่านว่า "เอช_คีย์ หรือ เฮด_กี "หล่ะ เผื่อคนรู้เรื่องมาได้ยินเข้า จะได้ไม่อายเขา
3. ในแต่ละ Root key ก็จะมี Key ย่อย ถัดลงไปอีกเรื่อยๆ ในส่วนของ Key และ Sub Key นั้นเราสามารถสร้างเพิ่ม หรือ ลบทิ้งได้ตามความต้องการครับ
>> ที่ Column ด้านขวา >>
4.ใน แต่ละ Key ของ reg จะต้องมี Value อย่างน้อย 1Value เสมอ และเมื่อคุณสร้าง Key ขึ้นมาใหม่ โปรแกรมก็จะสร้าง REG_String Valueให้ซึ่งถือเป็นค่า Default ของโปรแกรม
5. ใน registry จะมีข้อมูล (Value) ทั้งหมด 6 รูปแบบ และคุณก็สามารถสร้างข้อมูลแต่ละชนิดขึ้นมาได้ (อ่านที่Page 3. )ในช่อง Type จะบอกให้รู้ว่าข้อมูลนั้นๆ(Value)เป็นข้อมูลแบบไหนครับ
6. ชื่อของข้อมูล: ถ้าคุณสร้างข้อมูลแล้วไม่ตั้งชื่อ โปรแกรมก็จะกำหนดให้เป็น New...ตามด้วยชื่อรูปแบบของข้อมูลนั้นๆ
7. Data คือค่าที่คุณต้องการกำหนด หรือ ใส่ลงไปในช่อง Value Data วิธีการก็ให้คุณ Double click หรือ คลิกขวาที่ข้อมูลที่คุณต้องการแก้ไขจากนั้นเลือก Modify...
8. Status Bar : ถ้าคุณอยากรู้ว่า ตอนนี้คุณเข้ามาถึง Key ไหนแล้ว หรือมาถูก Key หรือเปล่า? ให้ดูจากตรงนี้ครับ
9. Menu Bar แต่ละตัวเลือกใช้งานอะไรบ้าง? อ่านได้ที่ Page 4. ครับ ซึ่งก็รวมถึง การใช้งาน Keyboard Shortcut ของโปรแกรมตัวนี้ด้วย

Spy kid2 Spy kid2  Funny animation.gif

 

 

Root Key ทั้ง 5 ของ Registry >> Read More



5 Root key in Registry : คีย์หลักทั้ง5 ของRegistry (Basic Registry Page 2.)

 

1.True File & Directory of Registry in Windows System & Registry Component 2. 5 Root key in Registry
3. Value format in Registry & how to write Value data each type. 4. How to use Menu function & Shortcut key in registry Editor
5. Create & editing Registry with Notepad or Wordpad(Create File.reg) 6. Writing Value & Value data in file.reg with Notepad or WordPad
7. Delete Key , Value & Value data in registry with Notepad or Wordpad(File.reg) 8. Notepad WordPad : Toy or Magic? (Review&Info Editor Software)

 

Basic Registry Page 2.

5 Root key in Registry: คีย์หลักทั้ง 5 ของ Registry



5 Root key in Registry(Basic Registry Page 2.)

 


เปิดโปรแกรม Registry editor

1. กด Windows Key + r (เปิดRun) > พิมพ์ regedit > OK >Yes
2. พิมพ์ regedit ที่ Address bar จากข้างใน Folder อะไรก็ได้ > คลิกที่ --> ท้าย Address bar หรือกด Enter > Yes
ทั้ง 2 วิธีใช้ได้กับ Windows ทุกรุ่น, สำหรับวิธีการเปิดที่มากกว่านี้ให้อ่านที่ Page 1.


ทำความรู้จัก Root Key ทั้ง 5

Note : ที่อยู่ในวงเล็บคืออักษรย่อของแต่ละ Rootkey คุณสามารถใช้อักษรย่อเขียนแทนชื่อเต็มแบบยาวๆของ Rootkey ทั้ง 5 ได้ ซึ่งสะดวกรวดเร็วกว่า ใช้ในกรณีการเขียนคำสั่งแก้ไข Registry โดยใช้ Batch File หรือ cmd(reg.exe)

HKEY_CLASSES_ROOT (HKCR )

ใช้เก็บข้อมูล การกำหนดตั้งค่านามสกุลไฟล์ต่างๆว่าแต่ละนามสกุลนั้นใช้โปรแกรมไหนเป็นตัวเปิดรวมไปถึง Root key ที่เป็นตัวเชื่อมโยงไปยัง Object ต่างๆทั้งหมด ของWindows และ โปรแกรมต่างๆที่เราติดตั้งด้วย ซึ่งเราเรียกว่า CLSID(Class Identifier)อยู่ใน Root Key HKEY_CLASSES_ROOT\CLSID (ผมจะยกรายละเอียดของ CLSID ไปเขียนที่ Basic Registry Page 3. หัวข้อ Expandable String Value เพราะจะนำมาใช้เป็นตัวอย่างด้วยครับ )
ขยายความ - ทุกอย่าง,ทุกคำสั่ง,ทุกเมนูที่อยู่ในระบบวินโดว์ไม่ว่าจะเป็น Computer ,Home Group, Folder,ฯลฯ เราเรียกรวมๆว่า Object (วัตถุ,เป้าหมาย) ใน Registry Object ต่างๆจะแทนค่าด้วย CLSID(Class Identifier) CLSID จะมีลักษณะเป็นชุดตัวเลขระบบสุ่มขนาด128bitsของMicrosoft ที่สร้างมาจากGUID(Globally Unique Identifier)

HKEY_CURENT_USER (HKCU)

เก็บข้อมูลของผู้ที่Log on ใช้วินโดว์ในตอนนั้นโดยเฉพาะ แสดงข้อมูลการตั้งค่าของสภาพแวดล้อมในวินโดว์ รวมถึงการตั้งค่าในControl Panel ด้วย

HKEY_LOCAL_MACHINE(HKLM)

มันเป็น Root Ke yยอดฮิต Key หนึ่งที่นักปรับแต่งหลายท่าน รวมถึง พวกขบวนการMalwareด้วยนะขอบอก ที่มักจะแวะเวียนมาปรับแต่งเปลี่ยนแปลง(เราเรียกการปรับแต่งWindowผ่านทาง reg ว่าTweak(บิด,กระตุก แต่ในภาษา computer แปลว่าการปรับแต่ง) บ้างก็ใช้คำเข้าใจง่ายๆว่าการ Hack reg, Hack Windows)ด้วยเหตุที่ว่ามันเป็นที่เก็บข้อมูล การตั้งค่าของwindows ข้อมูล Hardware แต่ละชิ้นโดยข้อมูลดังกล่าวจะถูกนำมาใช้กับทุก User System configuration: Startup tab>location(กรณีวินโดว์ที่มีการแบ่งการใช้งานหลายคน) และ สำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับการปรับแต่ง reg มาบ้างแล้วจะเห็นว่า มันมีคีย์ย่อยหลายคีย์ที่เหมือนกับ HKEY_CURENT_USER
มาดูตัวอย่างของ HKEY_LOCAL_MACHINE ที่ผมบอกว่ามี key หลาย Key ที่เหมือนกับ HKEY_CURENT_USER
ผมพิมพ์ msconfig ที่ช่อง Start Search เพื่อเปิด Dialog box ของ System Configuration และ เข้าไปที่แท็บ Start up ให้สังเกตที่ช่อง Location(Pic 1.) Root key ที่เราเห็นในภาพ คิอ เป็น Root key ที่โปรแกรมบางตัวใช้ในการตั้งค่า ในกรณีที่มันต้องการ Run ตัวเองขึ้นมาในตอนที่เราเปิด Windows และ Root key ที่ว่านี้ โปรแกรมจำพวก Malware ก็มักจะนิยมมาฝังตัวด้วยเหมือนกัน แต่ Malware ที่ดูแล้ว...หลั่นล้าไฮโซกว่า และสร้างสรรค์กว่า จะไปเล่นซ่อนแอบกันที่Root key ที่ชื่อ Run one ครับ

HKEY_USERS(HKU)

 

HKEY_USERS(HKU)

ใช้เก็บข้อมูลของผู้ใช้ทั้งหมด ตัวอย่าง key.DEFAULTเป็นคีย์ที่เก็บค่า Default ใน Control Panel ซึ่งค่าใน key นี้วินโดว์จะนำมาใช้ก็ต่อเมื่อเราไม่อยู่ในระบบเท่านั้น เช่น Sleep หรือ Log on ส่วน Key S-1-5-18 จะเก็บการตั้งค่าขนาดตัวอักษร Desktop Mouse Keyboard ซึ่งจะอาศัย Security Identifiers เป็นตัวชี้อีกท

HKEY_CURENT_CONFIG(HKCC)

 

 

HKEY_CURENT_CONFIG(HKCC)

เก็บข้อมูลการตั้งค่าต่างๆของ Hard Ware จะทำงานเมื่อวินโดว์บูทระบบ





NOTE :
- เท่าที่ผมเขียนมา หรือ ถ้าใครคุ้นเคยกับ reg มาบ้างแล้วจะสังเกตว่า การตั้งค่าปรับแต่ง หรือ กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง บางหน้าที่บางคำสั่ง จะไม่ได้มีการตั้งค่าแน่นอนตายตัวอยู่ที่คีย์ใดคีย์หนึ่งเสมอไป นั่นก็หมายความว่า reg มีความยืดหยุ่นอยู่ในตัว บางคำสั่งก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้เขียนโปรแกรมจะเชื่อมโยง หรือผูกมันไว้กับคีย์ หรือ รูทคีย์ไหน และดูเหมือนว่า นี่ก็เป็นดาบ2คมของ reg เรื่องที่2 ที่ไม่ควรมองข้ามกล่าวคือผู้เขียนอาจจะบอกว่ามันมีความยืดหยุ่น แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะยืดหยุ่นไปหมดทุกเรื่อง เพราะบางเรื่องมันต้องการความแม่นยำ และ แน่นอนอย่างที่สุด เช่น การใส่ข้อมูล การตั้งค่าต่างๆไงครับ ถ้าคุณพิมพ์ผิดแม้แต่ตัวอักษรเดียวก็อาจส่งผลในทางตรงกันข้าม หรือถึงขั้นเลวร้ายไปเลยก็มี
Monalisa  Funny animation.gif- สิ่งที่ควรรู้ ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนVersionของ Windows (เช่นจาก Win7 มาเป็น Wim8) reg ก็จะมีการ Update ตามไปด้วย ก็เหมือนกับโปรแกรมทั่วๆไปครับ คือส่วนใหญ่จะอัปเดทกันที่คีย์ย่อยมากกว่า Root Key ทั้ง5 ยังอยู่เหมือนเดิม คีย์ที่ทำหน้าที่หลักๆก็ยังมีอยู่(เช่นใน XP มีถังขยะ พอมาถึงVista,7,8 ถังขยะก็ไม่ได้หายไปไหน) แต่ถ้าใน Vista,7 มีการเพิ่มคุณสมบัติ Arrow ใน Win8 เพิ่ม Metro UI กับ Ribbon เข้ามา แบบนี้เรียกว่าส่วนที่ Updateครับ ในความคิดเห็นส่วนตัวของผม Reg มันก็เหมือนกับกฎทั่วๆไปของธรรมชาตินั่นแหละ มันไม่มีอะไรแน่นอนตายตัวเสมอไป ในทางที่ควรแล้ว ถ้าใครสนใจที่จะศึกษาReg(หรือเรื่องอื่นก็เหอะ)ในระดับที่สูงขึ้น ผมแนะนำว่า อย่ายึดติดกับรูปแบบเก่าๆเดิมๆให้มากนัก การอัปเดทความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอเป็นเรื่องที่ควรทำ รู้มากย่อมเหนือกว่า(ไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่งหละ)...ใครจะเถียง ก็ถ้าของใหม่มันไม่เข้าท่าจริงๆ หันหลังคว้าของเก่ากลับมาใช้ ก็ไม่เห็นมันยากเย็นตรงไหน..ว่ามะ

รูปแบบข้อมูลใน Registry และ วิธีการเขียนข้อมูลแต่ละประเภท >> Read More





Value Format in Registry & how to write Value data each type: รูปแบบข้อมูลใน Registry และ วิธีการเขียนข้อมูลแต่ละประเภท(Basic Registry Page 3.)


 


1.True File & Directory of Registry in Windows System & Registry Component 2. 5 Root key in Registry
3. Value format in Registry & how to write Value data each type. 4. How to use Menu function & Shortcut key in registry Editor
5. Create & editing Registry with Notepad or Wordpad(Create File.reg) 6. Writing Value & Value data in file.reg with Notepad or WordPad
7. Delete Key , Value & Value data in registry with Notepad or Wordpad(File.reg) 8. Notepad WordPad : Toy or Magic? (Review&Info Editor Software)

Basic Registry Page 3.


Value format in Registry & how to write Value data each type.

รูปแบบใน Registry และ วิธีการเขียนข้อมูลแต่ละประเภท



 



Value format in Registry & how to write Value data each type. (Basic Registry Page 3.)เมื่อคุณเปิดโปรแกรม Registry Editor ที่ Frame ด้านขวา สังเกตที่ Type colume คุณจะเห็นอักษรย่อลักษณะนี้ครับ REG_SZ, REG_BINARY, REG_DWORD, REG_QWORD, REG_MULTI_SZ, REG_EXPAND_SZ
Q : มันคืออะไร?
A : ขอตอบว่า มันคือเนื้อหาใน Page นี้หน่ะสิ.. !? (ตอบแบบนี้น่าจะสมนาคุณด้วย ขนมส้วนเตียนbata มาก) ....มันคือข้อมูลรูปแบบต่างของ Registry ครับ และ ถือเป็นเรื่องพื้นฐานสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งที่จำเป็นต้องรู้ ถ้าคุณคิดจะไปเล่นกับ Registry
Q : ถ้าไม่รู้เรื่องเลย แล้วเข้าไปแก้ไข หรือ ปรับแต่งให้ตรงตามสูตรเปะๆ แบบตาม Tip ใน Internet หรือ หนังสือมันผิดหรือ?
A : ก็มีทั้งผิด และถูกเพระว่า คนจะเขียนบทความเกี่ยวกับ Registry ส่วนใหญ่(ที่ไม่ใช่ทั้งหมด)ก็ต้องมีพื้นฐานในเรื่องที่ตนเขียนอยู่แล้ว แต่ผมอยากจะถามว่า : คุณจะหลับหูหลับตาเชื่อ หรือทำตามในเรื่องที่คุณไม่รู้จักที่มาที่ไปแบบง่ายๆ เพียงเพราะมันเป็นบทความจาก Internet หรือ มาจากหนังสืออย่างนั้นเลยหรือครับ? เข้าเนื้อหาดีกว่า(ขอเรียกสั้นๆว่า reg )
เปิดโปรแกรม Registry Editor
 พิมพ์ regedit ที่ช่อง Start Search(Vista, Win7), พิมพ์ regedit ที่ Start screen(win8)
 กดKey Windows + r จะขึ้น Dialogbox Run พิมพ์ regedit กด OK จะมี Pop-up ขึ้นมาถามยืนยันให้กดYes (XP,Vista,7,8) แต่ถ้าคุณต้องการรู้วิธีการเปิดที่มากกว่านี้ ผมเขียนรวมไว้ที่ Page1.

Registry How to Create New...1. ที่ Column ด้านซ้ายเราเรียกว่า Key โดยหลักของ reg ในหนึ่ง Key จะต้องมีข้อมูลอย่างน้อย 1 ค่า ซึ่งโปรแกรมจะสร้างให้โดยอัตโนมัติทันทีเมื่อคุณสร้าง Key ขึ้นมาใหม่ และ ข้อมูลแรก(ค่า Default) ที่โปรแกรมสร้างให้นี้จะเป็นข้อมูลแบบ”สายประคำ” ว้าว!!..แปลเป็นภาษาไทยแล้วฟังดูขลังดีพิลึก...เราเรียกว่า “String Value” ครับ
* String : ในภาษา Computer หมายถึง สายอักขระ คือการนำอักษรหลายๆตัวมารวมกันเป็นข้อมูลยาวๆ
* ถ้าคุณอยากรู้ว่า ตอนนี้คุณได้เข้ามาถึง Rootkey ไหนให้ดูที่แถบ Status bar(เส้นใต้สีม่วง)
2. และ เมื่อคุณคลิกขวาที่คีย์ใดก็ตาม (หรือคลิกขวาที่ Column ด้านซ้ายก็ได้)จากนั้นเลือก New > .... ดูที่ Pic 1.ในกรอบสีส้ม
- ถ้าคุณเลือก New > Key ก็คือ สร้างคีย์ย่อยใหม่ถัดจากคีย์ที่คุณเลือก
- ถ้าคุณเลือก ตัวอื่นก็จะเป็นการสร้างข้อมูล (Value)ประเภทต่างๆ ซึ่งข้อมูลใน reg ที่คุณจะพบเห็นมี 6 ประเภทครับ ตามนี้....




 

ข้อมูลแต่ละประเภทของ Registry

Note : ในเครื่องหมายวงเล็บ คือ อักษรย่อที่แสดงใน Type column ของหน้าต่าง Registry Editor เพื่อบอกให้เรารู้ว่า ข้อมูลนั้นๆเป็นข้อมูลแบบไหน

String Value(REG_SZ )

คือข้อมูลที่เป็นข้อความแบบทั่วๆไปที่สามารถอ่านและแปลได้ตามปกติ เช่น ข้อความที่แสดงในโปรแกรมต่างๆข้อมูลแบบนี้มีให้เราเห็นเยอะครับ คุณสามารถดู ตัวอย่าง ของการปรับแต่ง Reg String Value เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ได้จาก Link ของบทความข้างล่างครับ
- Tweak user interface in Uninstall or change a program (Win 8,7,Vista) (เปลี่ยน ชื่อ, Icon, Version,ฯลฯ ของโปรแกรมในหน้าต่าง Uninstall ...)
- Create OEM infromations (เป็นการปรับแต่งส่วนต่างๆใน system properties ที่เรียกกันว่า OEM informations )

Binary Value (REG_BINARY)

เป็นข้อมูลแบบเลขฐาน2 แต่ในการตั้งค่า และ การแสดงผลบนหน้าต่าง Registry Editor(Data Column) จะเป็นเลขฐาน16(Hexadecimal) ประกอบไปด้วยตัวเลขกับตัวอักษร16ตัวคือ0123456789ABCDEF เราจะพบเห็นข้อมูลแบบ Binary ได้ในส่วนของการตั้งค่าต่างๆของโปรแกรม หรือการตั้งค่าของอุปกรณ์ Hardware มากกว่า ซึ่งถ้าคุณไม่มีความรู้ในส่วนนั้นจริงๆละก็ อย่ายุ่งจะดีกว่า แต่มันก็พอจะมีส่วนให้สังเกตได้อยู่นะว่าข้อมูล Binary นั้นๆมันคืออะไร เพราะในการตั้งค่าที่ช่อง Value data ของ Binary นั้น เราสามารถใส่ข้อมูลได้2แบบคือ (3.) ใส่ข้อมูลแบบข้อความธรรมดา [  http//:www.Booiii.Brogsport.com/ ] หรือ ใส่ข้อมูลแบบตัวเลขฐาน16(Hexadecimal) [  http//:www.Booiii.Brogsport.com/ ] เพื่อให้มองเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้นดูตัวอย่างจาก Pic 2. ครับ
REG_Binary Value (REG_BINARY)
Calculator
1. ผมทดลองสร้าง Key ย่อยขึ้นมาที่ HKEY_CLASSES_ROOT\* จากนั้นตั้งชื่อเป็น MY_TEST(1.) จากนั้นที่ Column ด้านขวาของ Key MY_TEST ผมคลิกขวาเลือก New > Binary Value เพื่อสร้าง Binary value ขึ้นมาใหม่ และ ตั้งชื่อเป็น TEST BINARY (2.)
2. จากนั้นผม Double clickที่ Value TEST BINARY ก็จะมี Dialogbox Edit binary Value เปิดขึ้นมาให้ตั้งต่า(3.)
3. ในที่นี้ผมเลือกวิธีการสร้างข้อมูลแบบข้อความธรรมดา ขออธิบายเป็นส่วนๆไปนะครับ
 http//:www.Booiii.Brogsport.com/: ข้อความธรรมดา ที่ผมใส่ลงไป 1บรรทัดสามารถป้อนตัวอักษรได้ 8ตัว และ การเว้นวรรค(Space) ในระบบของคอมพิวเตอร์ก็จะนับเป็น 1ตัวอักษรเช่นกัน
 http//:www.Booiii.Brogsport.com/ : ข้อมูลแบบเลขฐาน16(Hexadecimal) ที่โปรแกรมสร้างให้ อัตโนมัติ แต่ถ้าคุณเลือกตั้งค่าแบบเลขฐาน16(Hexadecimal) โปรแกรมจะสร้างข้อความให้เอง
 http//:www.Booiii.Brogsport.com/: ที่ผมขีดเส้นใต้ในกรอบสีฟ้าเป็นจำนวนรวมของอักษรเมื่อป้อนมาถึงบรรทัดนั้นๆได้ครบ 8ตัวพอดี แต่เป็นการเขียนจำนวนแบบ ตัวเลขฐาน16(Hexadecimal) เลข 0 ข้างหน้าไม่มีความหมาย ถ้าคุณต้องการรู้จำนวนจริงของตัวอักษรที่เราใส่ลงไป ก็ต้องแปลงเลขฐาน 16ให้เป็นเลขฐาน 10(Decimal) ซะก่อน วิธีการคิดอย่างง่ายๆก็ดูจากตัวอย่างที่ผมขีดเส้นใต้สีส้มครับ วิธีการก็ตามนี้
- เปิดโปรแกรม Calculator ขึ้นมาจากนั้นคลิก View > Programmer(Alt+3) >  http//:www.Booiii.Brogsport.com/ ถ้าตามตัวอย่างของผม เมื่อผมใส่ข้อมูลมาถึงบรรทัดที่ผมขีดเส้นใต้ โปรแกรมจะขึ้นบรรทัดใหม่ที่ กรอบสีฟ้า เป็นตัวเลขฐาน 16=20 เมื่อผมใช้เครื่องคิดเลขแปลงจากเลขฐาน16(Hex)มาเป็นเลขฐาน10(Dec)ก็จะจำนวนตัวอักษรที่ผมพิมพ์มาถึง 8ตัวสุดท้ายของบรรทัดนั้นพอดี ซึ่งก็จะได้เป็น 32 ตัวอักษร
- บรรทัดสุดท้ายที่ผมพิมพ์ 00 ลงไปอีก 2ตัว ถึงแม้ที่กรอบสีฟ้าโปรแกรมจะขึ้นค่า Hex เป็น 28 รอไว้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีตัวอักษรรวมกันทั้งหมด = 40 นะครับ เพราะในความหมายของโปรแกรมก็คือ ต้องพิมพ์ให้เต็มบรรทัดนี้ก่อนถึงจะ = 40 ตัวอักษร

3DWORD (32-bit) ValueDWORD (32-bit) Value(REG_DWORD)

(Pic 3.) ข้อมูลแบบ Double Word ในการแสดงค่าในหน้าต่าง Registry Editor(Data column) จะแสดงข้อมูลอยู่ 2 รูปแบบ คือแสดงข้อมูลแบบเลขฐาน16ก่อน โดยมี0x(ศูนย์X)นำหน้าตามด้วยเลขฐาน16(Hexadecimal) จำนวน8ตัว ในวงเล็บท้ายจะมีข้อมูลแบบเลขฐาน10 (Decimal)กำกับอีกที ส่วนใหญ่(ที่ไม่ได้แปลว่าทั้งหมด DWORD32bit Value มักจะเป็นข้อมูลในลักษณะบูลีน ( อ่านรายละเอียดด้านล่าง) เพื่อใช้ในการกำหนดสถานะ การทำงาน หรือตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ตั้งค่าเป็น 0 = ปิดการทำงาน หรือ ถ้าตั้งค่าเป็น 1= เปิดการทำงาน เป็นต้น แต่มันไม่ได้มีสูตรตายตัวแบบนี้ทั้งหมดนะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต Software หรือผู้คิดค้นการตั้งค่านั้นๆ จะกำหนดว่าตัวเลขอะไรคือเปิด หรือ ตัวเลขอะไรคือ ปิด และ มันก็ไม่จำเป็นด้วยว่า DWORD (32-bit) Value จะต้องเป็นการตั้งค่าเป็น เปิด/ปิด, ใช้/ไม่ใช้เท่านั้น เพราะมันอาจจะเป็นการตั้งค่าให้โปรแกรมทำงานในแบบหลายๆสถานะการณ์ก็มี
เราสามารถเลือกป้อนข้อมูล DWORD ได้2แบบครับ โดยการเลือกที่ค่า Base(ฐาน) และ เนื่องจากมันถูกจำกัดขนาดไว้ที่32bitเราจึงสามารถป้อนข้อมูลแบบ Hexadecimal ได้สูงสุด8ตัว แต่ถ้าเลือกป้อนข้อมูลแบบDecimal จะป้อนได้ 10ตัว เหตุผลที่มันใส่ข้อมูลได้สูงสุดเพียง 8ตัว ก็เพราะว่า เลขฐาน16 หนึ่งตัวจะมีขนาดเท่ากับ4บิท เพราะฉนั้น DWORD 32bit ก็เท่ากับเอา32ตั้งหารด้วย4 ก็= 8 ตัวอักษร
*Boolean logic(ตรรกะแบบบูล): ตัวแปรที่มีการกำหนดค่าที่แน่นอนให้มีผลอย่างใดอย่างหนึ่งที่ชัดเจน เช่นการกำหนดให้เป็น"จริง" (True) หรือ " ไม่จริง "(False) ใช้มากในการเขียนโปรแกรม เป็นหลักพิชคณิต ที่ตั้งตามชื่อของผู้คิดค้น คือยอร์ช บูล (George Boole)

4 QWORD (64-bit) Value

 

QWORD (64-bit) Value (REG_QWORD)

ข้อมูลแบบ Quad Word (ควอดเวิร์ด)ในการสร้างข้อมูล รวมไปถึงการแสดงผลบนหน้าต่าง Registry Editor จะมีลักษณะเหมือน กับ DWORD Value แต่จะแตกต่างตรงที่ QWORD Value จะสามารถใส่ข้อมูลได้มากเป็น1เท่าตัวของข้อมูล DWORD (เพราะมันเป็น 64bit ไง) กล่าวคือถ้าเลือกค่า Base เป็น Hexadecimal จะใส่ข้อมูลได้ 16ตัว และ ถ้าเลือก Base เป็น Decimal(ฐาน10)จะใส่ข้อมูลได้ 20ตัว


5Multi String Value

 


Multi String Value(REG_MULTI_SZ)

เป็นข้อมูลตัวอักษรแบบ String Value ครับ แตกต่างกันตรงที่ Multi String Value สามารถใส่ข้อความได้หลายบรรทัดเท่านั้นเอง การแสดงผลบนหน้าต่าง Registry Editor จะแสดงเป็นบรรทัดเดียวกันหมด แต่เวลานำไปใช้งานจริง จะขึ้นอยู่ที่ตัวโปรแกรม จะแยกตามจำนวนบรรทัดที่ตั้งค่าไว้เอง




6Expandable String ValueExpandable String Value(REG_EXPAND_SZ )

เป็นข้อมูลตัวอักษรแบบเดียวกับ String Value แต่ ที่แตกต่างก็คือ ใช้เก็บข้อมูลตัวแปรของระบบเพื่อให้ระบบอ่านแล้วตีค่าได้ ตัวอย่างเช่น%systemroot% หรือ %username% ,ฯลฯ ดูตัวอย่างที่(Pic 6.)


Flushe away(toad)  Funny animation.gif* CLSID(Class Identifier)*
เนื้อหาตรงนี้อาจไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ Expandable String Value แต่ผมเขียนขึ้นมาเพื่อขยายความ ในเรื่องของ CLSID จาก Page 1. ครับ
- จาก Root key ในตัวอย่าง Pic 6.(HKEY_CLASSES_ROOT\CLSID\{20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D}) ตรงนี้เป็น(Class Identifier) ที่เชื่อมโยงไปยังการตั้งค่าต่างๆของ Computer และ ถ้าคุณอยากรู้ว่า CLSID ตัวไหนเชื่อมโยง ไปยัง Object อะไร หรือ เป็นของโปรแกรมไหน ให้คุณดูที่ REG_SZ ที่ชื่อ Default ครับ
- ขยายความ ทุกอย่าง,ทุกคำสั่ง,ทุกเมนูที่อยู่ในระบบวินโดว์ไม่ว่าจะเป็นComputer ,Home Group, Folder,ฯลฯ เราเรียกรวมๆว่า Object (วัตถุ,เป้าหมาย) ใน Registry อ็อบเจ็คทต่างๆจะแทนค่าด้วย CLSID
- ชุดตัวเลขในวงเลบปีกกา{Braces} เป็นชุดตัวเลขระบบสุ่มขนาด 128 bits ของ Microsoft ที่สร้างมาจาก GUID(Globally Unique Identifier)

การใช้งานแท็บเมนูคำสั่งต่างๆของ Registry Editor และ Keyboard Shortcut ที่น่าสนใจ Read More