วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

Extract original images from Word, Excel document



 

6 วิธีสำหรับนำภาพต้นฉบับออกจากเอกสาร Word, Excel โดยยังคงคุณสมบัติดั้งเดิมไว้ทุกประการ
สาเหตุ ที่ทำให้การนำภาพประกอบจากในเอกสาร Word, Excel ออกมา Print มักจะทำให้สีเพี้ยนไปจากที่แสดงผลใน Monitor ก็เพราะว่า ...
1. คนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจว่าภาพประกอบในเอกสาร Word, Excel นั้น ต้นฉบับบของภาพใช้โหมดสีอะไร และภาพที่เราพบเห็นส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นโหมด RGB (โหมดแสดงผล) มีน้อยมากที่จะเป็นโหมด CMYK (โหมดพิมพ์) ซึ่งวิธีการแก้ไขก็ต้องนำภาพไปปรับโหมด รวมไปถึงปรับแต่งด้วยโปรแกรมในกลุ่ม Graphic เช่น Photoshop, Gimp หรือถ้าภาพประกอบเป็น Vector ก็ควรนำไปตรวจสอบคุณสมบัติด้วย Adobe Illustrator, CorelDRAW ก่อนการพิมพ์เป็นต้น
2. ภาพที่สามารถนำมาเป็นภาพประกอบในเอกสาร Word, Excel นั้นมีหลายนามสกุลไฟล์ (Extension), แต่ละนามสกุลไฟล์ก็สามารถตั้งค่าคุณสมบัติได้แตกต่างกันออกไป
เช่น *.png ก็จะมีทั้ง png 24, png8 บางภาพก็กำหนดให้พื้นหลังโปล่งใส, ถ้าเป็น *.png8 ก็ยังสามารถกำหนด และควบคุมการแสดงผลของจำนวนสีได้อีกด้วย หรือ...
*.gif สามารถกำหนดคุณสมบัติเหมือนกับ *.png8 ทุกประการ แต่จะเพิ่มความสามารถในการนำไปสร้างเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ด้วย (Animition.gif)
3. ภาพประกอบที่มีนามสกุล *.eps, *.wmf สีเพี้ยนแน่นอนครับ แต่มันมีข้อดีก็ตรงที่ถ้านำภาพต้นฉบับออกมา ตามวิธีการข้อ A, B(ข้างล่าง) คุณก็จะได้ภาพ Vector ที่ยังคงแยก Layers และสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบในโปรแกรม Illustrator
4. และเวลาคุณดึงภาพออกมาพิมพ์ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ตั้งขอสงสัยด้วยว่า...เฮ๊ย! แล้วไฟล์ต้นฉบับของภาพมันเป็นมีนามสกุล (Extension) อะไร?, ใช้โหมดสีอะไร?, เหมาะสำหรับโหมดพิมพ์หรือเปล่า? ...ฯลฯซึ่งวิธีการแก้ไขขั้นแรกที่คุณควรทำก็คือ คุณต้องนำภาพต้นฉบับที่อยู่ในเอกสาร Word, Excel ออกมาก่อนครับ
5. ในการดูภาพในเอกสารจริง ถ้าคุณไม่ใช่คนที่สร้างไฟล์ขึ้นมาเอง คุณก็จะไม่รู้ว่าภาพประกอบนั้นๆมีนามสกุลดั้งเดิมเป็น *.อะไร




*อ่านก่อน*
- ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ปัญหานี้ดูเหมือน Microsoft ก็มีการปรับปรุงแก้ไขทุกครั้งที่มีการปรับรุ่น ของโปรแกรมชุด MS Office, เพราะจะสังเกตได้ว่า ภาพประกอบในแต่ละนามสกุลไฟล์ที่ได้จากการ Save, Copy, Paste, รวมไปถึงวิธีการต่างๆที่จะกล่าวถึงในบทความนี้ ของ MS Word, Excel ในแต่ละรุ่นนั้นให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกันหมดทุกเรื่อง

ตัวอย่าง เอกสาร Word ข้างล่างนี้ วางอยู่ในตารางที่มีพื้นสีเทา และ ใช้ภาพประกอบที่มีนามสกุลไฟล์แตกต่างกันทั้งหมด 11 ภาพ และ ไฟล์ต้นฉบับของแต่ละภาพจะมีขนาดเท่ากันคือ 350 x 350 pixel, บางภาพก็มีการย่อ/ขยาย, ปรับเอียง รวมไปถึงการใช้ Styles ปรับแต่งภาพด้วย
Example extensions image

 


☺ วิธีนำไฟล์ภาพต้นฉบับออกจากเอกสาร Word, Excel 





เลือกทำตามวิธีใดวิธีหนึ่ง ตามความเหมาะสม




A. นำภาพต้นฉบับออกมาใช้ด้วย WinRAR หรือ 7 Zip ดูภาพประกอบตามหมายเลข


1. คลิกขวาบน File.docx หรือ .xlsx ที่คุณต้องการนำภาพออก > Open with > 7zip File Manager หรือ WinRAR archiver(ถ้าคอมพิวเตอร์ของคุณยังไม่มีตัวเลือก แบบภาพตัวอย่างให้คลิกหาที่ Choose default program...)
Extract original images from Word, Excel  with winrar  or 7Zip 2. ที่หน้าต่าง Winrar หรือ 7 Zip เปิดเข้าไปที่โฟลเดอร์ word
**
ถ้าเป็นไฟล์ Excel ให้เปิดเข้าไปที่ 
xl
3. ลากโฟลเดอร์ media ออกมาวางไว้ที่หน้า Desktop หรือ ที่ โฟลเดอร์ใดๆก็ได้ตามที่คุณต้องการ
- เปิดโฟลเดอร์ media ดูครับ ก็จะมีภาพต้นฉบับอยู่ในนั้น (ภาพจะเรียงลำดับตามที่วางไว้ในเอกสาร Word, Excel)

Extract original images from Word, Excel  with WinRAR  or 7Zip
3. *หรือ* คุณจะเปิดเข้าไปในโฟลเดอร์ media อีกชั้น > กด Ctrl + A > ลากภาพออกมาจาก WinRAR, 7zip หรือ จะลากภาพออกมาทีละภาพก็ได้

เรื่องที่น่าสนใจ: ด้วยความสามารถในการเปิดไฟล์ของ *.docx, *..xlsx ของโปรแกรม WinRAR และ 7 Zip ในลักษณะนี้ คุณก็สามารถนำวิธีการดังกล่าวมาซ่อน ไฟล์ และ โฟลเดอร์ที่เป็นความลับ ให้ฝังเข้าไปในเอกสารได้ด้วย วิธีทำก็ไม่ยาก อ่านได้จาก บทความนี้ครับ Hide file,folder behind Word document.docx & Excel document.xlsx









 

B. ขั้นตอนที่ง่ายกว่า ถ้าคุณใช้ 7zip

7zip จะมีเมนูคลิกขวาเพื่อจัดการกับไฟล์/โฟลเดอร์ได้หลายคำสั่ง ซึ่งง่ายกว่า WinRAR มากทีเดียว, และข้อดีอีกข้อของ 7zip ก็คือ มันเป็น Freeware ครับ, Download มาใช้งานได้ฟรี หมดปัญหาเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์

วิธีนำภาพต้นฉบับออกมาใช้ด้วย 7zip ก็ดูจาก ภาพตัวอย่างข้างล่างครับ

>> คลิกขวาบน File.docx หรือ *.xlsx ที่คุณต้องการนำภาพออก > 7zip > Extract hear > ดับเบิลคลิกเพื่อเปิดเข้าไปที่โฟลเดอร์ Word (ถ้าเป็นไฟล์ Excel ให้เปิดเข้าไปที่ xl) > media ตามลำดับ ก็จะเห็นภาพทั้งหมดอยู่ในนั้น

Extract original images from Word, Excel document with 7zip








C. นำภาพต้นฉบับออกจาก Word, Excel ด้วยการเปลี่ยนนามสกุลเป็น *.zip แล้วเปิดด้วย Windows Explorer ใน Windows 7, 8, 10

ในขณะที่ผมเขียนบทความอยู่นี้ MS ปล่อย Win 10 รุ่นทดลองที่2 (InsiderPreview) ออกมาให้ Download ได้ประมาณ 4วันแล้วมั๊ง ผมทดลองใช้ดูความสามารถในการเปิด Zip file ก็เป็นแบบเดียวกับ Win 7, 8
วิธีนี้ทำได้ง่าย และไม่ต้องพึ่ง Software แต่ที่ผมนำมาเขียนเป็น ข้อ C.ก็เพราะว่าทุกวันนี้คนที่ยังใช้ XP, Vista ก็ยังมีอยู่ และความสามารถนี้ก็ไม่มีใน XP, Vista ด้วย
Extract original images from word excel document with windows explorer in windows 7,8,10
วิธีทำ (ดูภาพตัวอย่างตามหมายเลข)

1 . เปลี่ยนนามสกุลไฟล์ของ Word, Excel เป็น .zip 
(จะมี Pop-up ขึ้นมาถามเพื่อยืนยันให้ตอบ Yes)

2. Double click ที่ไฟล์ .zip เพื่อเปิดโฟลเดอร์
(หรือคลิกขวา > Open with > Wondows Explorer ก็ได้)

3. เปิดเข้าไปที่โฟลเดอร์ word 
(ถ้าเป็น Excel จะชื่อ xl)

4. ลากโฟลเดอร์ที่ชื่อ media มาวางที่ Desktop หรือ ที่ไหนก็ได้ตามต้องการ, ภาพประกอบทั้งหมดจะอยู่ในนั้น




Note วิธีการตั้งแต่ข้อ A, B, C.
- ภาพประกอบที่มีนามสกุลเป็น *.eps (Vector) จะถูกเปลี่ยนนามสกุลไฟล์เป็น *.wmf (Vector เช่นกัน) ซึ่งคุณสามารถนำไปปรับแต่ง, แก้ไขได้ด้วย Illustrator โดยยังคงมีคุณสมบัติของการแยก Object และ Layers อยู่เหมือนเดิม แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ สีเพี้ยนไปครับ
- ภาพประกอบที่เป็น Animation.gif (ภาพเคลื่นไหว) จะยังคงมีคุณสมบัติเหมือนเดิม






 

D. นำภาพต้นฉบับออกจาก Word โดยการเปลี่ยนนามสกุลไฟล์จาก *.docx ไปเป็น Web page, Filtered (*.htm, *.html)

Note:
- โปรแกรม Excel ( *.xlsx ) ไม่มีตัวเลือกนี้ครับ (แนะนำให้ใช้วิธีการตามข้อ A, B) 
- วิธีการนี้ ไม่เหมาะสำหรับการแยกภาพประกอบที่เป็น Vector เช่น *.eps,
 *.wmf เพราะโปรแกรมจะแปลงภาพให้กลายเป็น *.png

วิธีทำ ดูภาพประกอบตามหมายเลข
1. ในเอกสาร Word > ถ้าภาพประกอบมีการปรับแต่งไม่ว่าจะเป็น Styles, , Effects หรืออื่นๆ ที่เป็นเป็นการปรับแต่งด้วยความสามารถของ Word ให้คุณคืนค่าของภาพทั้งหมดก่อน (Reset Picture & Size)
** แต่ถ้าคุณต้องการภาพที่มีลักษณะเหมือนกับที่เห็นในเอกสารอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องคืนค่าก็ได้
Example extensions images
2. คลิกที่ File > Save as > เลือก Directory (ที่เก็บ File, Folder) > ที่ตัวเลือกSave as type เลือกเป็น Web page, Filtered(*.htm, *.html)
Change file extension to bring back original images in word
Word html file3. เปิดเข้าไปดูในโฟล์เดอร์ที่ Save ไว้ครับ จะเห็นว่าภาพต้นฉบับทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในนี้ โดยยังคงมีนามสกุล และขนาดของไฟล์ ที่เหมือนต้นฉับ
ข้อสังเกต
- ถ้าภาพประกอบมีนามสกุลเป็น *.eps, *.wmf โปรแกรมจะแปลงนามสกุลไปเป็น *.png ให้โดยอัตโนมัติ 
- ถ้าภาพประกอบ Vector นั้นๆมีพื้นหลังโปล่งใส (Transparence background), ไฟล์ภาพ *.png ที่ Save นั้นก็ยังคงมีพื้นหลังที่โปล่งใสอยู่เหมือนเดิม







E. การใช้คำสั่ง Save as Picture... ใน MS Word

คำสั่ง Save as Picture... เหมาะสำหรับการนำไฟล์ภาพต้นฉบับออกมาใช้ทีละภาพครับ แต่ก็มีข้อควรจำอยู่ว่า...
MS Word  save as picture1. Save as Picture... เป็นคำสั่งที่เพิ่มเข้ามาตั้งแต่ MS Word 2010, ฉะนั้นถ้าคุณใช้รุ่นที่เก่ากว่าก็ไม่มีคำสั่งนี้ และ ใน Excel ก็ไม่มีคำสั่งนี้เช่นกัน
2. ก่อนการ Save คุณไม่จำเป็นต้องคืนค่า Styles, Effects ใดๆ (ไม่ต้อง Reset Picture & Site) ** ผมทดลองเฉพาะ Word 2010 และ Word 2013, สำหรับรุ่น 2007 กับ 2003 ผมจำไม่ได้แล้ว
3. ในการ Save โปรแกรมจะเลือกนามสกุลดั้งเดิมให้อัตโนมัติ, ถ้าคุณต้องการภาพต้นฉบับจริงๆก็ไม่ควรเปลียนนามสกุลไฟล์
4. ถ้าภาพประกอบมีนามสกุลเป็น *.eps, *.wmf โปรแกรมจะแปลงนามสกุลไปเป็น *.pngให้โดยอัตโนมัติ (ไม่มีคุณสมบัติของ Vector file อีกต่อไป) และถ้าไฟล์นั้นมีพื้นหลังโปร่งใส *.png ที่โปรแกรม Save ให้ก็ยังจะโปร่งใสเหมือนเดิม 
5.
 ถ้าภาพประกอบเป็น Animation.gif (ภาพเคลื่อนไหว) โปรแกรมก็จะ Save เป็น Animation.gif ให้เช่นกัน แต่ ภาพเคลื่อนไหวนั้นจะทำงานเพียงรอบเดียวแล้วหยุดไป (ตามปกติ Animation.gif มักจะกำหนดให้เคลื่อนไหวแบบวนซ้ำๆมากกว่า)









Copy image form MS Word to photoshopF. การใช้คำสั่ง Copy ใน MS Word จากนั้นนำไป Paste ในโปรแกรมจัดการกับภาพ

วิธีการนี้ผมไม่แนะนำ เพราะมีข้อเสียค่อนข้างมาก (แต่ถ้าคุณไม่สนใจรายละเอียดอะไรมากมายก็สามารถทำได้)
ไม่ว่าคุณจะใช้คำสั่ง Copy (Ctrl+C) จากนั้นนำไป Paste ( Ctrl+V ) ในโปรแกรมจัดการภาพอะไรก็แล้วแต่ เช่น Photoshop, Paint, Illustrator, Gimp, ฯลฯ ก็จะได้ผลลัพธ์ตามนี้
1. คุณจะไม่มีโอกาศได้รู้ว่าภาพต้นฉบับนั้นมีนามสกุลดั้งเดิมเป็น *.อะไร?
2. ถ้าภาพประกอบมีการย่อ/ขยาย, ปรับแต่ง Styles, Effects หรืออื่นๆ และคุณไม่ได้ใช้คำสั่ง Reset Picture & Size ภาพที่ได้จากการ Paste ก็จะมีขนาดเล็ก/ใหญ่ และ รูปแบบตามที่เห็นใน Word ทุกประการ
3. ภาพที่มี Background โปร่งใส: เมื่อใช้คำสั่ง Copy/Paste จะได้ภาพที่มี Background เป็นสีขาวแทน
4. ภาพประกอบที่เป็น Vector จะกลายเป็นภาพ Bitmap
5. ภาพที่เป็น Ainmation.gif ก็จะกลายเป็นภาพนิ่งธรรมดา






วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

Using BurnAware Free Edition and Download


 


CD,DVD... CONTENTS

1. Burn CD, DVD with Windows explorer Page 1: Like a USB flash drive Option 2. Burn CD,DVD with windows Explorer : With a CD/DVD player option
3. How to Open and How to Burn an iso image file in Windows XP, Vista, 7, 8 4. How to Configure CD or DVD drive (CD or DVD Properties Recording Tab)
5. Using BurnAware Free Edition and Download.

Using BurnAware Free Edition and Download.

วิธีใช้งาน BurnAware Free Edition

BurnAware Free Edition, Review & Download
BurnAware ก็คือโปรแกรมที่จัดอยู่ในกลุ่มโปรแกรม Burn ทั้งหลาย ชี่งทางผู้ผลิต ได้แยกออกเป็น 3 Editions คือ Free, Premium, Professional แต่ละรุ่นก็มีความสามารถแตกต่างกันไป
ในบทความนี้จะเป็นการแนะนำวิธีการใช้งาน Free Edition ครับเพราะไม่ต้องจ่ายเงินซื้อ และไม่ต้องไปละเมิดลิขสิทธิ์ใครด้วย
จุดเด่นของโปรแกรมตัวนี้ก็คือ มันเป็นโปรแกรมตัวเล็ก (ใช้พื้นที่ Hard disk เมื่อติดตั้งเสร็จ 26.8 MB) และ ใช้งานได้เบาเครื่องมาก
อีกเรื่องหนึ่งที่โดดเด่นก็คือ BurnAware มีส่วนติดต่อที่เข้าใจง่าย ขั้นตอนการใช้งานก็ไม่ซับซ้อนวุ่นวาย


 

วิธีติดตั้ง BurnAware Free Edition

การติดตั้ง BurnAware Free ก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก แต่ที่ผมยอมเสียเวลาเขียนเรื่องนี้ก็เพราะผมสังเกตว่าผู้ใช้ Computer จำนวนไม่น้อยที่มักจะหลับหูหลับตาคลิก Next, OK, Yes กันแบบมั่วๆ โดยที่ไม่ได้อ่านอะไรเลย พอมีปัญหา หรือเรื่องน่ารำคาญหยุมหยิมก็แก้ไขไม่ได้อีก บางทีก็ตอบไม่ได้ด้วยว่าสาเหตุมันมาจากไหน
คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อผมก็แล้วแต่, บางโปรแกรมถ้าคุณไม่อ่านให้ถี่ถ้วน บางทีมันอาจจะหลอกให้คุณคลิก Accept เพื่อโอนบ้านพร้อมที่ดินก็เป็นได้ ใครจะไปรู้

ให้คุณดูที่หมายเลข 5 : โปรแกรมจะแนะนำให้คุณติดตั้ง AVG Security Toolbar ด้วย, ถ้าคุณคุ้นเคยกับการท่องเน็ทโดยการใช้ Google search แบบเดิมๆ ก็ให้เอาเครื่องหมายถูกออกก่อนการคลิก Next แต่ถ้าคุณต้องการอยากจะใช้ AVG Security Toolbar ก็ให้ติ๊กเครื่องหมายถูก
หมายเลข 8: ในกรณีที่ Computer ของคุณมีการแบ่งการใช้งานหลาย User และถ้าคุณต้องการให้ทุก User สามารถใช้อุปกรณ์ CD/DVD ได้เหมือนเดิม คุณควรติ๊กถูกที่ Allow non-Admin to access CD/DVD devices.

How to install Burn aware free Edition
How to install Burn aware free Edition


หน้าตาของโปรแกรมก็จะเป็นดังรูป(Pic 2.)
GUI Burn aware free Edition


การใช้งานโปรแกรม: ต้องบอกว่า มันง่ายยิ่งกว่าที่คุณจะไปตามหารักแท้ในโลกอินเตอร์เน็ทซะอีก (เป็นการเปรียบเทียบที่เลอะเทอะดีจริงๆ)
เพราะฉะนั้น ใน Page นี้ผมจะอธิบายวิธีการใช้งานเฉพาะ Options ที่คิดว่าน่าจะนำไปใช้งานได้บ่อยเท่านั้นครับ สำหรับ Options อื่นๆที่เหลือก็มีขั้นตอนการใช้งานที่เหมือนๆกัน









A. การ Burn/ Write แบบ Data disc

Option นี้ ใช้สำหรับบันทึกข้อมูลทั่วไปลงแผ่นดิสก์ (File, folder อะไรก็ได้)
Burnaware: Burn data disc option

ดูภาพประกอบตามหมายเลข (Pic 3)

1. ใส่แผ่นดิสก์เปล่าลงใน CD/DVD Drive
2. ที่ BurnAware คลิกที่ Data disc
3. ลาก File, Folders ที่คุณต้องการมาวางที่ Frame ด้านซ้าย หรือ คุณจะคลิกลากไฟล์จากข้างในโฟลเดอร์ตามปกติ (Windows Explorer)มาวางก็ได้
3.1 ถ้าคุณอยากรู้ว่าไฟล์ทั้งหมดของคุณใช้พื้นที่เท่าไหร่ของแผ่นดิสก์ให้ดูที่แถบสีเขียว
3.2 ตั้งค่าความเร็วในการ Burnแผ่นดิสก์, ถ้าข้อมูลที่คุณจะ Burn นั้น มีสำคัญมากๆ หรือ DVD Drive ของคุณใกล้จะเสีย แนะนำว่าให้เลือกเป็นความไวต่ำจะดีกว่า 2.4X
4. เมื่อจัดการกับไฟล์เสร็จเรียบร้อยแล้วให้คุณคลิก burn_button[10]Burn

 






B. Copy to Image

ตัวเลือกนี้มีไว้สำหรับ Copy ข้อมูลจากแผ่นดิสก์ให้เป็น iso file, เช่นถ้าผมต้องการ Copy แผ่นติดตั้ง Linux Kubuntu ไว้เป็น iso file ก็ต้องทำตามนี้
Burnaware: Copy to image option



ดูภาพประกอบตามหมายเลข (Pic 4.)

1. ใส่แผ่นดิสก์ที่คุณต้องการ Copy ลงใน CD/DVD Drive

2. ที่ BurnAware คลิก Copy to Image

3. เลือกปลายทาง(ที่เก็บ ISO file) และ ตั้งชื่อของ File 
เมื่อโปรแกรมทำงานเสร็จ

4. คลิก Copy






C. Mark ISO

ตัวเลือกนี้ใช้สำหรับการนำ File, Folder หรืออะไรก็ได้ มาสร้างเป็น ISO file
Burnaware: Mark ISO Option


ดูภาพประกอบตามหมายเลข (Pic 5.)


1. ที่ BurnAware คลิก Mark ISO


2. เลือกระบบไฟล์ของดิสก์ ตัวอย่างของผมใช้ค่า Default ของโปรแกรม (ISO 9660)


3. ลาก File, Folders ที่คุณต้องการมาวางที่ Frame ด้านซ้าย หรือ คุณจะคลิกลากไฟล์จากข้างในโฟลเดอร์ตามปกติ (Windows Explorer) มาวางก็ได้


4. คลิก burn_button[11]Mark


5. เลือกที่เก็บไฟล์ > Save





Turbo: Funny Animated GIF


Note: สำหรับวิธีการใช้งาน Options อื่นๆที่เหลือคุณสามารถอ่านรายละเอียดได้จาก Help ของตัวโปรแกรมเองครับ (English Language)