Deny Access to Removable Devices: วิธีสร้าง File.reg เพื่อปิดการเชื่อมต่อ อุปกรณ์บันทึกข้อมูลภายนอกผ่านทาง USB Port

วิธีสร้าง File.reg เพื่อปิดการเชื่อมต่อ อุปกรณ์บันทึกข้อมูลภายนอกผ่านทาง USB Port (Flash drive, HD External, SSD External, Memory card)   วิธีการปรับแต่ง Registry ในบทความนี้ จะมีผลทำให้ Windows จะไม่สามารถมองเห็น External memory ทุกชนิดที่เสียบเข้ากับ USB Port ได้อีกต่อไป (จนกว่าจะมีการคืนค่า Registry ให้เป็นเหมือนเดิม) ซึ่งเหมาะสำหรับการนำไปใช้กับ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่อาจจะมีคนอื่นมาขอร่วมใช้กับเราด้วย แต่เราไม่ต้องการให้ใครมาแอบขโมยข้อมูลของเราไป และข้อดีอีกข้อก็คือ มันสามารถป้องกัน Malware ที่อาจติดมากกับ External memory ทุกชนิดได้ * สำหรับวินโดว์ XP จะ Support หรือเปล่าต้องทดลองกันเองค่ะ, แต่ถ้าเป็น Vista - 10 ก็ใช้งานได้ปกติ A. สร้าง File.reg เพื่อปิดการเชื่อมต่อ อุปกรณ์บันทึกข้อมูลภายนอกผ่านทาง USB port 1. Copy code ข้างล่างนำไป Paste ใน Notepad จากนั้น Save/Save as... ตั้งชื่อไฟล์อะไรก็ได้ แต่ให้พิมพ์ต่อท้ายชื่อไฟล์เป็นนามสกุล.reg Windows Registry Editor Version 5.00 [HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Services\USBSTOR] "Start"=dword:4 2. ดับเบิลคลิกที่ File.reg > Yes > Yes > OK ** ต้อง Restart computer 1ครั้งค่ะ การตั้งค่าถึงจะมีผล, อุปกรณ์จำพวก Flash drive, Hard disk external, Memory card ก็จะไม่สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้อีกต่อไป จนกว่าจะมีการคืนค่าให้เป็นเหมือนเดิม Note:  ตามหลักการเขียนข้อมูลแบบ DWORD (32bit) Value ที่ถูกต้อง, เราต้องใส่ Value data ของ WriteProtect เป็น00000004 (เลขฐาน16 แปดหลัก, แต่ละหลักมีค่า=4bit, 4x8=32bit) แต่เนื่องจากเลข 0 เจ็ดหลักที่นำหน้าเลข 4 นั้นไม่มีค่าอะไรเลย เพราะฉะนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้   B. วิธีคืนค่า USB. 1. คลิกขวาบน File.reg ที่คุณสร้างขึ้นตามข้อ A.> Edit > เปลี่ยนค่า dword จาก 4 เป็น 3  2. คลิกที่ File > Save As... ตั้งชื่ออะไรก็ได้ แต่ต้องพิมพ์ต่อท้ายชื่อเป็น .reg 3. ดับเบิลคลิกที่ File.reg เพื่อเป็นการคืนค่า USB port ให้กลับมาใช้ได้เหมือนเดิม Note: คุณสามารถอ่านรายละเอียด วิธีสร้าง File.reg เพื่อใช้สำหรับการปรับแต่งแก้ไข Registry key, Value, Data ได้จาก Link นี้ค่ะ ** ถ้าคุณต้องการปรับแต่งใน Registry Editor ให้ทำตามนี้ ** 1. กด Windows + r > พิมพ์ regedit > OK > Yes 2. ใน Registry Editor ให้เปิดเข้าไปตามนี้  HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Services\USBSTOR 3.ที่ Column ด้านขวา ดับเบิลคลิกที่ REG_DWORD ที่ชื่อ Start > เปลี่ยนค่า Value data = 4 > OK วิธีการคืนค่า:  กลับเข้าไปดับเบิลคลิกที่ Start DWORD Value > เปลี่ยนค่า Value data = 3 (เลข 3 เป็นค่า Default ของข้อมูล) บทความที่มีเนื้อหาคล้ายกัน:วิธีสร้าง File.reg เพื่อ "ห้ามการเขียน, ก็อปปี้ และ Saveข้อมูล" ลงในอุปกรณ์บันทึกข้อมูลภายนอกทุกชนิด ผ่านทาง USB Port : วิธีการนี้จะยืดหยุ่นกว่าก็ตรงที่ เรายังจะสามารถใช่งาน, ก็อปปี้ ไฟล์, โฟลเดอร์ต่างๆ ที่อยู่ในอุปกรณ์บันทึกข้อมูลภายนอกนั้นๆได้ตามปกติ แต่จะไม่สามารถแก้ไข, เขียนทับ, ก็อปปี้ไฟล์/โฟลเดอร์ใด ๆจากข้างในคอมพิวเตอร์ไปไว้ใน อุปกรณ์บันทึกข้อมูลภายนอกได้เลย

Prevent Access to Removable drives: วิธีสร้าง File.reg เพื่อ "ห้ามการเขียน, ก็อปปี้ และ Saveข้อมูล" ลงในอุปกรณ์บันทึกข้อมูลภายนอกทุกชนิด ผ่านทาง USB Port (Flash drive, HD External, SSD External, Memory card)

วิธีสร้าง File.reg เพื่อ "ห้ามการเขียน, ก็อปปี้ และ Saveข้อมูล" ลงในอุปกรณ์บันทึกข้อมูลภายนอกทุกชนิด ผ่านทาง USB Port (Flash drive, HD External, SSD External, Memory card)       ทำความเข้าใจ "ผลลัพธ์" กันก่อน เมื่อทำการปรับแต่ง Reg ตามบทความนี้ ถ้าคุณเสียบ อุปกรณ์บันทึกข้อมูลเข้ากับ USB port คุณยังจะสามารถใช่งาน, ก็อปปี้ ไฟล์, โฟลเดอร์ต่างๆ ที่อยู่ในอุปกรณ์บันทึกข้อมูลภายนอกนั้นๆได้ตามปกติ แต่ จะไม่สามารถแก้ไข, เขียนทับ, ก็อปปี้ไฟล์/โฟลเดอร์ใด ๆจากข้างในคอมพิวเตอร์ไปไว้ใน อุปกรณ์บันทึกข้อมูลภายนอกได้เลย * สำหรับวินโดว์ XP จะ Support หรือเปล่าต้องทดลองกันเองค่ะ, แต่ถ้าเป็น Vista - 10 ก็ใช้งานได้ปกติ วิธีทำ 1. Copy code ข้างล่างนำไป Paste ใน Notepad หรือ WordPad ก็ได้ จากนั้น Save ตั้งชื่อไฟล์อะไรก็ได้  แต่ต้องพิมพ์ต่อท้ายชื่อไฟล์เป็น .reg Windows Registry Editor Version 5.00 [HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Control\StorageDevicePolicies] "WriteProtect"=dword:1 2. ดับเบิลคลิกที่ File.reg > Yes > Yes > OK (หรือคลิกขวาบนไฟล์.reg เลือก Merge ก็ได้ค่ะ) *เมื่อลอง ก็อปปี้ไฟล์, โฟลเดอร์จากใน Drive ของคอมพิวเตอร์ ก็จะมี Pop-up ขึ้นมาเตือนตามรูป -->> Note: ตามหลักการเขียนข้อมูลแบบ DWORD (32bit) Value ที่ถูกต้อง, เราต้องใส่ Value data ของ WriteProtect เป็น 00000001(เป็นเลขฐาน16 แปดหลัก, แต่ละหลักมีค่า=4bit, 4x8=32bit) แต่เนื่องจากเลข 0 เจ็ดหลักที่นำหน้าเลข 1 นั้นไม่มีค่าอะไรเลย เพราะฉะนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้ วิธีคืนค่า USB. 1. Copy code ข้างล่างนำไป Paste ใน Notepad จากนั้น Save ตั้งชื่อไฟล์อะไรก็ได้ แต่ต้องพิมพ์ต่อท้ายชื่อไฟล์เป็น .reg Windows Registry Editor Version 5.00 [-HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Control\StorageDevicePolicies] 2. ดับเบิลคลิกที่ File.reg, USB port ก็จะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ Note * Code ข้างบนหมายถึง: ให้ลบคีย์ที่ชื่อ StorageDevicePolicies ออกไปค่ะ  ถ้าใช้วิธีการปรับแต่งจากข้างในโปรแกรม regedit เราจะต้องสร้างคีย์ (รวมถึงข้อมูลในคีย์) StorageDevicePolicies ขึ้นมาเอง เพราะฉะนั้นถ้าต้องการคืนค่าการใช้งาน USB Port ก็ต้องลบคีย์ StorageDevicePolicies ออกไป ** อ่านรายละเอียด วิธีสร้าง File.reg เพื่อใช้สำหรับการปรับแต่งแก้ไข Registry key, Value, Data ได้จาก Linkนี้ค่ะ ** ถ้าคุณต้องการปรับแต่งใน Registry Editor ให้ทำตามนี้ ** 1. กด Windows + r > พิมพ์ regedit > OK > Yes 2. ในโปรแกรม regedit ให้เปิดเข้าไปตามนี้  HKEY_LOCAL_MACHINE\ SYSTEM\CurrentControlSet\Control 3. คลิกขวาบนคีย์ Control > New > key ตั้งชื่อเป็น StorageDevicePolicies 4. คลิกขวาบนคีย์ StorageDevicePolicies > New > DWORD (32bit) value > ตั้งชื่อเป็น WriteProtect > Value data = 1 วิธีการคืนค่า - ให้คุณคลิกขวาบนคีย์ StorageDevicePolicies > Delete - หรือ ถ้ายังไม่ต้องการลบก็ให้เปลี่ยนค่า Value data ของ WriteProtect = 0 ก็ได้ค่ะ บทความที่มีเนื้อหาคล้ายกัน:  วิธีสร้าง File.reg เพื่อปิดการเชื่อมต่อ อุปกรณ์บันทึกข้อมูลภายนอกผ่านทาง USB Port : วิธีการนี้จะแตกต่างจากวิธีการในบทความนี้ก็ตรงที่ วินโดว์จะมองไม่เห็น External memory ทุกชนิดที่เสียบเข้ากับ USB Port

Hide Computer (This PC) in Navigation Pane

	Contents
วิธีซ่อน/คืนค่า Computer (This PC) ใน Navigation Pane โดยส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับการซ่อน This PC (Computer) ใน Navigation Pane นะครับ แต่รู้วิธีไว้ก็ไม่เสียหายอะไร เพราะเผื่อว่า ถ้ามีใครมาแกล้งคุณเล่น จะได้แก้ไขถูกวิธี วิธีทำ (ดูภาพประกอบตามหมายเลข) เปิด Registry Editor: กด Windows + r > พิมพ์ regedit > OK > Yes 1. เปิดเข้าไปตามคีย์นี้  HKEY_CLASSES_ROOT\CLSID\{20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D}\ShellFolder 2. คลิกขวาที่ ShellFolder > Permisstion > คลิกที่กลุ่ม Administrators > ที่ช่อง Allow คลิกถูกที่ตัวเลือก Full Control > OK 3. คลิกขวาบน ShellFolder (หรือคลิกขวาบนที่ว่างของคอลั่มด้านขวาก็ได้) > new > Dword 32-bit Value  > ตั้งชื่อเป็น Attributes 4. ดับเบิลคลิกที่ Attributes > ใส่ค่า Value data = b094010c > OK * หลังจากการแก้ไขแล้ว คุณต้อง Restart Explorer, Sign out/in, Log off /on หรือ Restart อย่างใดอย่างหนึ่ง ถึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลง Restore Computer (This PC): - คลิกขวาที่ Attributes Dword Value จากนั้นเลือก Delete, Computer หรือ This PC ก็กลับมาเหมือนเดิมครับ - หรือ ถ้ายังไม่ต้องการลบ Attributes Dword Value ก็ให้เปลี่ยนค่า Value data ให้เป็น 0 ก็ได้
	Contents

Hide/Restore Libraries in the Navigation Pane on Windows 7-10

	Contents
วิธีซ่อน/คืนค่า Libraries ใน Navigation Pane Windows 7-10   มี 5 วิธี ส่วนคุณจะเลือกทำตามวิธีไหนนั้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้ Windows รุ่นไหน   วิธีที่ 1. ซ่อน/แสดง Libraries ด้วยตัวเลือกในเมนูคลิกขวาบน Navigation Pane  (Windows 8.1 และ 10 Insider Preview) ถ้าคลิกขวาบนที่ว่างของ Navigation Pane ก็จะมีตัวเลือก "Show/Hide" Libraries ให้คุณใช้อยู่แล้ว (ดูภาพตัวอย่างข้างบน) * Note ใน Windows 8.1  ถ้าคุณติ๊กถูกที่ Show Libraries: เมื่อคุณคลิกที่ File Explorer บน Taskbar จะเป็นการเปิด Libraries  ถ้าคุณเอาเครื่องหมายถูกออกจาก Show Libraries: เมื่อคุณคลิกที่ File Explorer บน Taskbar จะเป็นการเปิด This PC   วิธีที่ 2. ซ่อน/แสดง Libraries ใน Folder Options (Windows 8.1, 10) 1. เปิด Folder อะไรขึ้นมาก็ได้ > View Tab > Options 2. ที่ Folder Options dialog, General Tab ดูที่การตั้งค่า Navigation Pane ตัวเลือก Show Libraries  ถ้าเอาเครื่องหมายถูกออกจาก Check box จะเป็นการซ่อน Libraries  ถ้าติ๊กเครื่องหมายถูกใน Check box จะเป็นการโชว์ Libraries   ซ่อน/คืนค่า Libraries ใน Navigation Pane ด้วย Registry การซ่อน/คืนค่า Liblaries โดยการปรับแต่ง Registry ในแต่ละหัวข้อนั้น ผลลัพธ์จะใช้ได้ หรือไม่ได้อย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับรุ่นของ windows ที่คุณใช้ ซึ่งต้องนำไปทดลองกันเอง "อ่านก่อนทำตาม" 1. Windows 7, 8: ก่อนการแก้ไข Registry คุณต้อง ต้องตั้งค่า Permisstion ของ ShellFolder key ให้เป็น Full control, แต่ถ้ายังไม่สามารถตั้งค่า Permisstion ได้ตามปกติ ให้คุณ Sign in เข้าไปแก้ไขด้วยชื่อ Administrator 2. Windows 8.1: ปรับแต่ง Registry ใน User ปกติได้ทันที และไม่ต้องตั้งค่า Permisstion 3. Windows 8.1, 10: ถ้าคุณซ่อน Libraries โดยการปรับแต่ง Registry จะทำให้ตัวเลือก Show/Hide Librariesที่เป็นเมนูคลิกขวาใน Navigation Pane และ ตัวตั้งค่าใน Folder Options (ตามวิธีที่ 1, 2) ไม่สามารถตั้งค่าได้ * เพื่อให้ง่ายต่อการคืนค่า Registry ในภายหลัง "จะดีมาก" ถ้าคุณสำรอง Registry key ไว้ก่อนการปรับแต่ง  วิธีการ Backup Reg: คลิกขวาบนคีย์ที่คุณต้องการปรับแต่ง > Export > ตั้งชื่อ File อะไรก็ได้ > Save  วิธีการ Restore Reg: ให้คุณดับเบิลคลิกที่ File.reg ที่คุณสำรองไว้ วิธีที่ 3. ซ่อน/คืนค่า Libraries "ทุก User" เปิด Registry Editor: กด Windows + r > พิมพ์ regedit > OK > Yes 1. เปิดเข้าไปตามคีย์นี้:  HKEY_CLASSES_ROOT\CLSID\{031E4825-7B94-4dc3-B131-E946B44C8DD5}\ShellFolder 2. คลิกขวาที่ ShellFolder > Permisstion 3. คลิกที่กลุ่ม Administrators > ที่ช่อง Allow คลิกถูกที่ตัวเลือก Full Control > OK 4. ที่ Column ด้านขวา ดับเบิลคลิกที่Attributes เปลี่ยนค่า Value Data  จาก b080010d เป็น b090010d > Ok Restore Libraries: - ให้คุณเปลี่ยนค่า Value Data กลับไปเป็น b080010d Libraries ก็จะกลับคืนมาเหมือนเดิม * ถ้าคุณสำรอง Reg file ไว้ก่อนการแก้ไข ก็ให้คุณ Double click ที่ File.rge เพื่อเป็นการคืนค่า Libraries ก็ได้ วิธีที่ 4. ซ่อน/คืนค่า Libraries "เฉพาะ User" ที่กำลังเปิดใช้งาน 1. คลิกเข้าไปตามคีย์นี้  HKEY_CURRENT_USER\Software\Classes\CLSID\{031E4825-7B94-4dc3-B131-E946B44C8DD5}\ ShellFolder (* ถ้าคุณคลิกไปสุดทางแล้วไม่พบ Key ตามที่ระบุให้สร้างขึ้นมาเอง) 2. ที่ Column ด้านขวา ดับเบิลคลิกที่ Attributes เปลี่ยนค่า Value Data  จาก b080010d เป็น b090010d > OK Restore Libraries: - ให้คุณเปลี่ยนค่า Value Data กลับไปเป็น b080010d Libraries ก็จะกลับคืนมาเหมือนเดิม * ถ้าคุณสำรอง Reg file ไว้ก่อนการแก้ไข ก็ให้คุณ Double click ที่ File.rge เพื่อเป็นการคืนค่า Libraries ก็ได้ วิธีที่ 5. ซ่อน/คืนค่า Libraries "ลบการเชื่อมโยง" ของ CLSID ที่ NameSpace วิธีการนี้ทำได้ง่ายมาก ไม่ต้องแก้ไข Permission ด้วย แต่ผลลัพธ์ข้างเคียงที่แตกต่างกันไป แล้วแต่รุ่นของ Windows (อ่านที่  * Note ข้างล่าง) 1. คลิกเข้าไปตามคีย์นี้  HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Explorer\Desktop\ NameSpace\{031E4825-7B94-4dc3-B131-E946B44C8DD5} 1. เพื่อเป็นการสร้าง File.reg สำหรับการคืนค่า Libraries ให้กลับมาในภายหลัง, ให้คุณคลิกขวาที่คีย์ {031E4825-7B94-4dc3-B131-E946B44C8DD5} > Export > ตั้งชื่ออะไรก็ได้ > Save 2. วิธีซ่อน Libraries: คลิกขวาที่ {031E4825-7B94-4dc3-B131-E946B44C8DD5} > Delete > Yes ** ถ้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ให้คุณ Restart Explorer หรือ Sign out/in, Log off /on หรือ Restart อย่าใดอย่างหนึ่ง Restore Libraries: Double click File.reg ที่สำรองไว้ตามข้อ 1. Lbraries ก็จะกลับคืนมาเหมือนเดิม * Note: ข้อสังเกต Windows 10 Insider Preview: ถ้าคุณลบ Key ตามวิธีที่ 5 นี้  จะทำให้ตัวเลือก Show/Hide Libraries ที่เป็นเมนูคลิกขวาใน Navigation Pane และ ตัวตั้งค่าใน Folder Options (ตามวิธีที่ 1, 2) ไม่สามารถตั้งค่าได้  Windows 8.1: ถ้าคุณลบ Key ตามวิธีที่ 5 นี้ 1. ถ้าเมนูคลิกขวาบน Navigation Pane ยังเป็น  Show Libraries, เมื่อคุณคลิกที่ File Explorer บน Taskbar ระบบก็จะมี Pop-up แจ้งว่า The parametor is incorrect ตามรูป 2. ถ้าคุณเอาเครื่องหมายถูกออกจาก  Show Libraries เมื่อคุณคลิกที่ File Explorer บน Taskbar จะเป็นการเปิดThis PC Windows 8: ผมทดลองลบแล้ว แต่ไม่มีผลการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย Windows 7: ถ้าคุณลบ Key ตามวิธีที่ 5 นี้  เมื่อคุณคลิกที่ File Explorer บน Taskbar จากเดิมที่เคยเปิดเป็น Libraries ก็จะเปลี่ยนเป็นการเปิด Favorites * Windows 7,8 ถ้าคุณต้องการเปลี่ยน File Explorer Icon บน Taskbar เพื่อความสวยงามก็สามารถทำได้
	Contents