3 Options in msconfig, Boot Tab accelerate speed to boot: เร่งสปีดในการบู๊ต โดยใช้ 3 ตัวเลือกจาก Boot tab ของ msconfig

3 options in msconfig, Boot tab accelerate speed to boot. เร่งสปีดในการบู๊ต โดยใช้ 3 ตัวเลือกจาก Boot tab ของ msconfig ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่คิดว่าการเปิดใช้งานวินโดว์ในแบบช้าๆมาเนิบๆนั้น ช่างน่าอภิรมย์ สัมผัสได้ถึงความงดงามอ่อนช้อยเสมือนได้นั่งดูฟ้อนเล็บทางภาคเหนือแบบ Real time, Windows logo ก็แสนเพริศพริ้งตระการตา ผู้เขียนแนะนำว่าอย่าทำตามคำแนะนำในบทความนี้เด็ดขาด เพราะมันจะทำลายช่วงเวลาสุนทรียภาพของคุณไปอย่างน่าเสียดาย แต่..ถ้าคุณเป็นพวก Extreme พันธุ์แท้, ขาแร็บตัวพ่ออยากได้ Windowsที่ Boot อย่างกระฉับกระเฉงในสไตร์ เซิ้งตีดไหปลาแดก บทความนี้ตอบโจทย์คุณได้ครับ อีกหนึ่งทางเลือกที่ทำได้ง่ายเพียงไม่กี่ขั้นตอน แต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่เรารู้สึกได้ ในส่วนนี้ตามปกติวินโดว์จะไม่ตั้งค่าให้เราใช้ตั้งแต่แรกครับ เราต้องเข้าไปจัดการเอง คิดว่าหลายคนคงจะคุ้นเคยกับหน้าต่าง "System configuration" กับการปรับแต่งเป็นอย่างดี แต่ถ้าจะมีอะไรที่หลุดหูหลุดตาไปบ้าง ผมคิดว่า 3 ฟังชั่นที่ว่านี้น่าจะเป็นหนึ่งในนั้นนะ เปิด msconfig: เลือกทำตามข้อใดข้อหนึ่ง - Windows XP - 8 กด Windows key +r (เปิด Run dialog) > พิมพ์ msconfig > กด Enter - Windows 7 พิมพ์ msconfig ที่ Start search box > กด Enter - Windows 8 พิมพ์ msconfig ที่ Start screen > กด Enter ที่หน้าต่าง System Configuration ให้คุณคลิกที่ Boot Tab (Pic1) ใช้งาน CPUทุก core ช่วยเร่งสปีดในการBoot 1. คลิกที่ Advanced options เพื่อเปิดหน้าต่าง BOOT Advanced options 2. ที่ BOOT Advanced options ติ๊กเครื่องหมายถูกที่ Number of processors จากนั้นคลิกที่ผมวงกลมสีม่วงไว้ครับ CPU คุณมีกี่ Core ก็เลือกกันไปเลยตามสะดวก **ตัวเลือก Maximum memory:  ระบุจำนวนสูงสุดของหน่วยความจำกายภาพที่ใช้โดยระบบปฏิบัติการ เพื่อจำลองการตั้งค่าหน่วยความจำต่ำมีหน่วยเป็นเมกะไบต์ นี่คือข้อมูลที่ผมพอจะหามาได้ แต่ในทางปฏิบัติ ผมยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับการตั้งค่าในข้อนี้อยู่ดี เพราะต่อให้คุณเลือกใส่จนเต็มสูบ RAM แต่พอ Restart เครื่องใหม่มันก็จะกลับมาเป็นเลข 0 เหมือนเดิม ตรงนี้ผมก็ยังคาใจอยู่เหมือนกันนะว่าตกลงตัวเลือกนี้ เขาทำมาหาอาวุธโบราณหักอะไร? พยายามหาในอินเตอร์เน็ท หรือในหนังสือมาตั้งแต่ยุค XP รุ่นเนินหญ้าสีเขียวโน่นแล้ว แต่ก็ไม่เคยเจอคำตอบที่มองเห็นเป็นรูปเป็นร่างซะที ตัวเลือกอี่นๆ (ในกรอบสี่เหลี่ยม สีส้ม) 3. ในกลุ่มนี้มีอยู่ 4 ตัวเลือก แต่ตัวเลือกที่ช่วยลดเวลาในการ Boot ได้ก็คือตัวแรกครับ - No GUI: (GUI ย่อมาจาก Graphic User Interface) ในที่นี้ก็หมายถึง รูป windows logo ตอนที่เราบู๊ตเครื่องนั่นแหละครับ ถ้าคุณเกิดอาการเหม็นขี้หน้า Windows Logo ตัวนี้ก็ติ๊กถูกที่ No GUI กันได้เลย ลดเวลาการเข้าWindows ได้อีกนิด (แต่ถ้าใครชอบดู Logo Windows ตอนที่มันบูทแล้วคิดว่ามันสวยจะตาย ก็ไม่ต้องติ๊กก็ได้) ø อีก 3.ตัวเลือกที่เหลือ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการช่วยให้ Boot ไวแต่ก็อธิบายไปงั้นแหละ เผื่อมีคนอยากรู้ - Boot Log : เป็นตัวเลือกแบบเดียวกับตัวเลือก Enable Boot Logging ตอนที่เรากด F8 เวลา Boot เข้าวินโดว์( Advanced Boot Option) : คือให้Windows บันทึกรายการ Boot (log) ลงไฟล์ ntbtlog.txt ที่อยู่ใน C:\Windows ด้วยเพื่อใช้หาข้อผิดพลาดภายหลัง - Boot Video : อันนี้เจ๋งสุด ถ้าคุณเลือก ตั้งแต่เริ่มบูทเข้าหน้าจอมาจนหน้าDesktop ทั้ง Logo Icon และตัวหนังสือจะใหญ่คับบ้านคับเมืองเลยทีเดียว เหตุผลก็คือ Windows มันจะบูทด้วย Screen Resolution ที่ต่ำสุดของจอแสดงผลของเราครับ(ใช้ในกรณี การ์ดจอ หรือ Driver การ์ดจอมีปัญหาถึงขั้นแสดงผลตามปกติไม่ได้จริงๆ) - OS Boot information : ถ้าคุณติ๊กถูกตัวเลือกนี้ เวลาBoot มันจะขึ้นหน้าต่าง Load Windows File ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศ มาดูว่าเวลาบูท Windows มันโหลดอะไรบ้าง ก็ลองเลือกดูครับ 4.Timeout : ในกรณีที่คุณใช้ Computer แบบ Multi OS(แบบภาพประกอบ Pic 2.) มันจะเป็นค่า Delay มีหน่วยเป็นวินาที(เวลาหน่วงของหน้าต่างWindows boot Manager) เพื่อให้เราเลือกว่าจะใช้ OS ตัวไหนในหน้าต่างนี้ จะมีตัวเลือกอื่นๆรวมอยู่ด้วย คือ Advance boot option กับ tool :Window Memory Diagnostic แต่ถ้าเป็น OS เดี่ยวแบบทีคนส่วนใหญ่ใช้กัน ก็จะตัดส่วนของ Windows boot Manager ออกไปเหลือแต่ส่วนที่เหลือให้เราเลือก(Option พวกนี้ จะใช้ในกรณีWindowsมีปัญหา)  - แง่คิดสำหรับข้อนี้ ก็คือ แล้วแต่ใครจะเลือกครับ อย่างถ้าคุณปรับลดเวลาให้เป็นเลข 1 หรือ 0. ก็จะเป็นการลดเวลาในการบูทเข้าWindows ได้จริง แต่มันจะมีข้อเสียตรงที่เวลา Windows ของคุณมีปัญหาถึงขั้นบูทเข้ามาหน้า Desktop ตามปกตินี่สิครับ (ถ้าคุณจำได้แม่ยำก็แล้วไป แต่ส่วนใหญ่ไม่อย่างนั้น) คุณจะมองหาปุ่มที่ใช้สำหรับเลือกเข้าหน้าต่าง Advance boot options รวมถึง Boot...อื่นๆไม่ทัน หรือ ไม่มีโอกาสเห็นเลย อย่างเช่น ต้องกด F8,F12 หรือ ต้องกด Key อะไร?.. ถ้าต้องการเข้าไปหน้า BIOS เป็นต้น "นอกหัวเรื่องครับ คุณจะสนใจอ่านหรือไม่ก็ได้" การปรับแต่งในหน้าต่าง Configuration อีก2ส่วนที่ช่วยลดเวลาในการBootเข้าวินโดว์ได้เป็นอย่างดีก็คือ การปิด Services(Pic 2 / 5.) กับ การปิดStartup(Pic 2/6.) แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่ามันเป็นการปรับแต่งพื้นฐาน ที่มีการเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ทมากแล้ว เลยอยากจะขออธิบายในส่วนของรายละเอียดปลีกย่อยบางส่วนที่พอจะมีประโยชน์จะดีกว่า 5. Services: เซอร์วิสเป็นคุณสมบัติหรือโปรแกรมเสริม ที่รันตัวเองให้ขึ้นมาทำงานเองโดยอัตโนมัติทุกครั้งพร้อมๆกับระบบปฏิบัติการ มันจะคอยช่วยเสริมการทำงานให้กับระบบ แต่ในการใช้งานทั่วไปมี Services อยู่จำนวนไม่น้อยที่ถูกรันขึ้นมาโดยไม่จำเป็น และสิ้นเปลืองทรัพยากรเครื่องโดยเปล่าประโยชน์ นอกจากเราจะปิดServices ได้จากหน้าต่างนี้แล้วเรายังสามารถปิด และ จัดการกับ services ที่คลอบคลุมกว่า(แต่ไม่ค่อยเหมาะสำหรับมือสมัครเล่น เพราะตัวเลือกค่อนข้างเยอะชวนงง)ผมแนะให้เข้าไปปิดที่หน้าต่าง servicesจะดีกว่าครับโดยเข้าไปที่ Start Menu > Administrative Tools > Services หรือ พิมพ์คำว่า services.msc ที่ Run Dialog (Windows+r) หรือที่ช่องStart Search อันไหนก็ได้ครับ Win8 ก็พิมพ์ลงไปที่ Start screen 6. Startup : เป็นรายชื่อโปรแกรมที่รันตัวเองขึ้นมาทำงานโดยอัตโนมัติทุกครั้งตอนที่เราเปิดเครื่องครับ โปรแกรมพวกนี้มักจะเป็นพวกที่เหนียมอายนิดๆคือ มันจะแอบทำงานอยู่เบื้องหลังไม่แสดงตัว แต่ถ้าตัวไหนหน้าด้านขึ้นมาหน่อยก็จะมาโผล่ให้เราเห็นตรง Notification area(พื้นที่ประกาศ)ที่ทาสบาร์ฝั่งขวามือ และที่แย่ไปกว่านั้นมันจะคอยซดทรัพยากรเครื่องอยู่ตลอดเวลา แถมทำให้เสียเวลาในการบู๊ตเข้าวินโดว์อีกต่างหาก ตัวไหนที่เราไม่ค่อยจะได้ใช้ก็เอาเครื่องหมายถูกออกไปเถอะครับ มันไม่จำเป็นต้องให้ทำงานกันแบบ Real time ไปหมดทุกตัวหรอก ในเมนู Startupนี้ มีข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ 6.1 ใช่ว่าจะมีแต่โปรแกรมซะเมื่อไหร่ ที่จะฝั่งตัวอยู่ใน Startup สัตว์เลี้ยงอีเล็คโทรนิคอย่าง Malware(โปรแกรมมุ่งร้ายทั้งหลายแหล่)ก็นิยมเหมือนกันนะ เพราะฉะนั้นถ้าเราเห็นชื่ออะไรแปลกๆ และไม่ใช่โปรแกรมที่เราติดตั้งด้วยให้สันนิฐานได้เลยว่า..ใช่เขาหล่ะรีบๆเอาเครื่องหมายถูกออกไปได้เลย 6.2 บางโปรแกรม(รวมถึงMalwareที่ฝังตัวอยู่แถวนี้ด้วย) ถึงแม้เราจะเอาเครื่องหมายถูกออกแล้ว แต่มันก็จะกลับมารันอยู่เบื้องหลังอีกทั้งนี้เนื่องจากความยืดหยุ่นของระบบ Registry ที่ผู้พัฒนาโปรแกรมสามารถเลือกเขียนคำสั่งลักษณะเดียวกันไว้ได้มากกว่า 1 Root key 6.3 ให้สังเกตที่ Location ครับตรงนี้จะเป็นตำแหน่ง key ของ Registry ที่โปรแกรมนั้นๆเขียนคำสั่งให้รันตัวเองตอนเปิดWindows เพราะฉะนั้นถ้าต้องการจะปิดอย่างถาวรเราก็ต้องเข้าไปปิดใน Registry ครับ รวมถึงถ้ามั่นใจชัวร์ๆว่าเป็นพวกVirus, Malware ก็ตามไปลบออกได้เลย ในส่วนของ Registry คงเป็นหนึ่งในเรื่องที่ผมจะเขียนมากที่สุดในอนาคต(เคยคิดจะเปลี่ยนบรรยากาศไปเขียนเรื่องพระกับ ถักโครเชท์ แต่ดูแล้วท่าจะไม่รุ่ง) ในที่นี้จึงยังไม่ขอเอามาปะปนครับ  6.4 กรณีของ Win 8 CP ทางไมโครซอฟได้ย้าย Startup Tab ไปรวมไว้ที่ Task Manager เรียบร้อยแล้วจุดที่น่าสังเกตก็คือ Microsoft เลือกที่จะไม่โชว์ Location ซึ่งเป็นคอลัมน์ที่บอกตำแหน่ง key ใน Registry ของโปรแกรมนั้นๆให้เราได้เห็นอีก แต่ก็มีเมนู Open file location มาแทน...ดีเสียยังไง? Windows 8 CP กับการเปลี่ยนแปลง Startup (เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวครับ)  ผมคิดว่าทางทีมงานพัฒนา Win8 ก็คงจะวิเคราะห์แล้วว่าการเข้ามาปิดเปิดส่วนStartup ของคนใช้งานคอมพิวเตอร์ทุกวันนี้เป็นเรื่องที่อาจต้องทำบ่อยขึ้น  ก็ถ้าเรารู้ว่าWin8 ได้ย้าย Startup tab ไปรวมไว้ที่ Task Manager แบบนี้ต่อไปถ้าเราคิดจะตั้งค่าอะไรในส่วนนี้ ก็ไม่ต้องมาเสียเวลาเข้าไปพิมพ์ msconfig อีกต่อไป แค่คลิกขวาที่ Taskbar >Task Manager คลิกที่ Startup Tab แบบนี้สะดวกกว่าเห็นๆแถมยังมี Option อื่นที่นอกเหนือจากการปิดเปิดให้เราได้เลือกใช้อีกตั้ง3ตัว  - Open file location : คือการเปิดไปยังที่อยู่(Target)ของไฟล์กระทำการ(.exe)ของโปรแกรมนั้นๆ ถ้าคุณพบอะไรแปลกๆก็แค่กดตัวเลือกนี้เพื่อดูให้แน่ใจว่า มันเป็นไฟล์กระทำการของโปรแกรมที่เราติดตั้งรึเปล่า? แต่ถ้ามันเป็นพวกโปรแกรมไม่พึงประสงค์ (บางโปรแกรม แอบติดตั้งตัวเองตอนเราคลิกอะไรมั่วๆระหว่างใช้ Internet) หรือมั่นใจว่าเป็น Malware ก็จัดการมันได้เลย การเปรี่ยนแปลงตรงนี้ผมคิดว่ามันสามารถเข้าถึงกลุ่มคนใช้งานทั่วไปได้ดีกว่านะ อีกอย่างที่ผมคิดว่าดีก็คือ ในกรณีของพวก Malware ถึงแม้คุณจะตามไปลบการผูกค่าของมันใน Registry แต่ไม่ได้ไปลบตัวเป็นๆของมันออกจากเครื่องก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย แต่ ถ้าคุณกำจัดตัวกระทำการของมันออกไปจากเครื่องแต่ยังมีข้อมูลหลงเหลือใน Registry ข้อมูลนั้นๆก็เป็นได้แค่เพียง"ขยะตกค้าง" ชิ้นเล็กๆใน Registry เท่านั้นเอง เปรียบได้กับเครื่องมือของคนชั่วยังตกค้างอยู่บ้าง แต่คนชั่วถูกกำจัดไปแล้ว แต่ถ้าคิดว่ายังไม่ชัวร์ โปรแกรมกำจัดขยะ Registry ฟรีๆมีให้เรา Download เยอะแยะ - Search online : มีความหมายไปตามนั้น - Properties : ก็เหมือนๆกับเราคลิกขวาเลือก Properties กับไฟล์ หรือโฟลเดอร์ทั่วๆไปครับ การเปลี่ยนแปลงของ Win8 คงต้องรอดูกันอีกทีในเวอร์ชั่นวางขายจริงครับ 8 CP อยู่ในขั้น Beta (MS ปล่อยให้ใช้งานฟรี1ปีเต็มนับตั้งแต่วันที่......มีนาคม2012.ถึงวันที่.....มีนาคม2013. จำไม่ได้แล้วขี้เกียจค้น