วันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Create "Open computer" on Context menu (right-click)




 

Tweaks windows Contents

11. Create "Open computer" on right click menu (Context menu) 12. Change file explorer icon (Libraries) on the task bar

Create Open (My)computer on Context menu (right-click)

วิธีสร้างส่วนติดต่อ เพื่อใช้เปิด (My) Computer ไว้ในเมนูคลิกขวา




Open (My)computer on right click menu (Context menu)

OS Support: Windows Vista, 7, 8
ภาพตัวอย่างในบทความ: Windows 8





การสร้าง หรือ เพิ่ม Computer icon (Windows 8.1เรียก This PC) เข้าไปในเมนูคลิกขวา (Context menu)ก็เพื่อให้เรียกใช้งานได้ง่าย, ไว และสามารถเปิดได้ทุกที่ทุกทาง โดยไม่ต้องมาเสียเวลามาคลิกเปิดที่ ไอคอนบน Desktop หรือ Start menu นั่นเอง

 


วิธีทำ: ดูภาพประกอบตามหมายเลข


Copy and Paste Explorer.exe

เปิดเข้าไปที่ C:\Windows จากนั้นมองหาไฟล์ที่ชื่อexplorer.exe
1. คลิกบน explorer.exe จากนั้นกด Ctrl + C และ Ctrl + V ตามลำดับ (หรือ คลิกขวาเลือก Copy และ Paste ก็ได้)
- จะมี Pop-up ขึ้นมาแจ้งเตือน 2ครั้ง ให้คุณคลิก continue และ yesตามลำดับ
Rename Explorer
2. เปลี่ยนชื่อ explorer - Copy.exe เป็น... ชื่ออะไรก็ได้ 
(ในตัวอย่างของผมตั้งชื่อเป็น 
explorer123.exe)
NOTE: เหตุผลที่ต้องสร้าง explorer ขึ้นมาใหม่ก็เพราะว่า ถ้าคุณใช้ explorer ที่เป็นของ Windows โดยตรง, มันจะเป็นการเปิด Library (ทดสอบโดยการ Double click ดูก็ได้)

เปิด Registry Editor : กด Windows key + R พิมพ์ regedit > OK > Yes
จากนั้นให้คุณเข้าไปที่ HKEY_CLASSES_ROOT\Directory\background\shell

Registry Create New key


3. คลิกขวาที่คีย์ Shell เลือก New > Key, 
จากนั้นให้คุณตั้งชื่อ Key ที่สร้างขึ้นมาใหม่เป็น...ชื่ออะไรก็ได้ 
(ในตัวอย่างของผมจะตั้งชื่อเป็น 
OPEN COMPUTER)

4. ที่ Column ด้านขวาของ OPEN COMPUTER Key ให้คุณคลิกขวาบนที่ว่างของ Column ด้านขวา > เลือก New > String Value เพื่อสร้าง String Value ขึ้นมา2 ค่าคือ
Registry:Create New> StringValue4.1 String Value ค่าที่1:  ตั้งชื่อเป็น ICON (จะใช้พิมพ์เล็ก หรือพิมพ์ใหญ่ก็ได้ มีค่าเท่ากัน) จากนั้น Double click ใส่ค่า 
Value Data = Path ของไฟล์ไอคอน หรือไฟล์ .exe ที่คุณต้องการให้แสดง เป็นสัญลักษณ์ของ Computer (ไฟล์อะไรก็ได้ที่มีนามสกุลเป็น .ico หรือ .exe)
* จากภาพตัวอย่าง ผมจะใช้ explorer123.exe เป็นรูป icon, ผมก็ต้องใส่ค่าเป็น 
C:\Windows\explorer123.exe
4.2 String Value ค่าที่2:  ตั้งชื่อเป็น POSITION จากนั้น Double click ใส่ค่า Value Data = ตำแหน่งที่
คุณต้องการ จะให้แสดง คือ
- ถ้าคุณใส่ Value Data = Top ชื่อของ Computer ที่คุณสร้างขึ้นมา ก็จะอยู่ข้างบน ของเมนูคลิกขวา
- ถ้าคุณใส่ Value Data = Bottom ( ตามตัวอย่าง ) ชื่อของ Computer ที่คุณสร้างขึ้นมา ก็จะอยู่ข้างล่างของเมนูคลิกขวา
- แต่ถ้าคุณต้องการให้ชื่อของ Computer ที่สร้างขึ้นอยู่ตรงกลางของเมนูคลิกขวา (ค่าDefault) ก็ไม่จำเป็นต้องสร้าง String Value ที่ชื่อ Position ครับ
5. คลิกขวาที่ OPEN COMPUTER (ถ้าคุณตั้งชื่อเป็นอย่างอื่นก็หมายถึง keyนั้นแหละ) > เลือก New > Key, จากนั้นตั้งชื่อ Key ที่สร้างขึ้นมาใหม่เป็น COMMAND
5.1 ที่ Column ด้านขวาให้คุณ Double click ที่ค่า Default ใส่ค่า Value data = Path ของ explorer 
ที่คุณสร้างขึ้นมา 
   * จากภาพตัวอย่าง ผมก็ต้องใส่เป็น 
C:\Windows\explorer123.exe
Registry: Create Command key
Open Computer on right-click menu(context)5.2 วิธีการใส่ หรือระบุ Path อย่างง่ายก็คือ ให้คุณ Create shortcut explorer ที่คุณสร้างขึ้นมาไว้ที่หน้า Desktop, จากนั้นคลิกขวาที่ explorer Shortcut > Properties > จากนั้น Copy path ที่ช่อง Target มาวางที่ Value data

* เมื่อเสร็จแล้วให้คุณคลิกขวาบนที่ว่า ที่หน้า Desktop หรือข้างใน Folders ดูครับ 
ก็จะเป็นดังรูป


Cat Funny animation.gifNote: วิธีการในบทความนี้เรียกว่า การสร้างเมนูคลิกขวาแบบทั่วไป (แบบ1ชั้น) และคุณก็ยังสามารถสร้างเมนูคลิกขวาในแบบ 2 หรือ 3 ชั้นได้ด้วย ถ้าสนใจก็อ่านวิธีทำได้จาก 2 Link ข้างล่างนี้ครับ




วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Change file explorer icon (Libraries) on the task bar


 


Tweaks windows Contents

11. Create "Open computer" on right click menu (Context menu) 12. Change file explorer icon (Libraries) on the task bar

Change file explorer icon (Libraries) on the task bar

วิธีเปลี่ยนไอคอนของ file explorer (Libraries) บน task bar ในวินโดวส์ 7, 8



Change file explorer icon (Libraries) on the task bar



ถ้าคุณเบื่อ File Explorer icon (Libraries) บน Taskbar แบบเดิมๆของ Windows 7, 8 ก็สามารถเปลี่ยนได้ครับ



วิธีทำ: ดูภาพประกอบตามหมายเลข
Open folder location File explorer


1. กด Shift ค้างไว้ จากนั้นคลิกขวาที่ file explorer icon บน Taskbar > เลือก Open folder location
2. คลิกขวาที่ Libraries > Create shortcut


Change Libraries icon


3. คลิกขวาที่ Libraries Shortcut > Properties > Change Icon
3.1 เลือก Icon ตามต้องการ
3.2 ถ้าคุณมีรูป Icon สวยๆอยู่แล้ว หรือ Icon
ที่ Change Icon Dialog box ยังไม่เป็นที่น่าพอใจคุณก็สามารถคลิกที่ Browse... จากข้างใน Folders ใดๆก็ได้ (ภาพที่จะนำมาเป็น Icon ได้นั้นต้องมีนามสกุลไฟล์เป็น 
.ico, .exe)
3.3 ถ้าคุณต้องการ Icon ที่เป็นแบบโปล่งใส (ล่องหน) ก็ให้คุณคลิกเลือกบนพื้นที่ว่างๆ...... เมื่อเลือกเสร็จแล้วคลิก OK
Unpin old file explorer fron taskbar


4. กลับไปที่ Taskbar จากนั้นให้คุณใช้คำสั่ง Unpin File Explorer ของเดิมออกไปก่อน
Pin new Libraries from the taskbar

5. ลาก Libraries Shortcut ที่คุณสร้างขึ้นมาใหม่มาวางไว้ที่ Taskbar
Note: เมื่อเสร็จแล้ว คุณก็สามารถลบ Libraries Shortcut ที่คุณสร้างขึ้นมาใหม่บน Desktop ทิ้งไปได้ครับ



วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Statistics, Trends & Market share tools Page1:รวมเว็บสำรวจสถิติ เทรนด์ และ Marketing share ทางด้านการตลาดในโลกอินเตอร์เน็ท

 



Statistics, Trends & Market share Tools Page1.

รวมเว็บสำรวจสถิติ เทรนด์ และ Marketing share ทางด้านการตลาดในโลกอินเตอร์เน็ท




Statistics Trends & Market share Tools  Page1.

บทความนี้วบรวมเว็บไซด์ที่ให้ข้อมูล, สถิติ (Statistics), ความนิยม (Trends)ส่วนแบ่งทางด้านการตลาด (Market share)เนื้อหามันอาจจะเหมาะสำหรับพวก Web master และคนที่ทำธุรกิจ Online Marketing เป็นหลัก
แต่สำหนับบุคคลทั่วไปก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้นะครับ เพราะถ้าพูดถึงความฮิต/ไม่ฮิต,นิยม/ไม่นิยม อะไรนี่ ถ้าคุณจะเอาข้อมูลเพียงแหล่งใดแหล่งหนึ่งมาเป็นหลักฐาน บางครั้งมันมีโอกาสผิดพลาดได้




A. Google trends

นับเป็นเครื่องมือสำรวจสถิติอันดับต้นที่นักสำรวจสถิติออนไลน์นิยมใช้กันก็ว่าได้นะ เหตุผลก็เพราะ มันใช้งานได้กว้าง และง่าย ให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้ และที่แน่ๆก็คือ Google ไม่เอียง หรือโมเมมั่วนิ่มเหมือนสำนัก “โพลละเมอ”บางสำนักที่เราพบเห็นกันบ่อยๆในเมืองไทย..ฮะฮ่า!!
หลักการเก็บสถิติของ Google trends ก็คือ ทุกครั้งที่มีการพิมพ์ หรือค้นหาอะไรก็ตามโดยใช้ Google search, Google ก็จะเก็บบันทึกอัตราการค้นหาของผู้ใช้อินเตอร์เน็ทมาเก็บไว้เป็นสถิติด้วย...หลักการมันก็คร่าวๆประมาณนี้ คุณจะใช้ Google trends สำรวจความนิยมของอะไรก็ได้ อย่างเช่น ความนิยมของตัวบุคคลที่มีชื่อเสียง,สินค้า,สถานที่ท่องเที่ยว,ฯลฯ... 

วิธีการสำรวจสถิติ ความนิยมโดยใช้ Google trends (ดูภาพประกอบตามหมายเลย Pic A.)

ให้คุณเข้าไปที่ http://www.google.com/trends/ : หน้านี้จะเป็นรายงานผลความนิยมในการค้นหาโดยรวม
1. ใช้สำหรับเลือกสำรวจสถิติความนิยมของแต่ละประเทศ
2. ถ้าคุณต้องการสำรวจค่านิยมของอะไร ก็ให้พิมพ์ข้อความนั้นๆลงไป (เราเรียกข้อความ หรือคำที่ใช้ในการค้นหาว่า Keyword) โดย ถ้าคุณต้องการสำรวจหรือเปรียบเทียบมากกว่า 1 Keyword ก็ให้คุณคั่นด้วยเครื่องหมาย , (Comma) โดยไม่ต้องเว้นวรรค จากนั้นกด Enter หรือ คลิกที่รูปsearch (Search trends) Google trends ก็จะแสดงผลตามหมายเลข 4.
ตัวอย่าง: ถ้าผมต้องการสำรวจว่าอัตราการใช้ Web browser ว่าค่ายไหนมีคนใช้มากกว่ากัน 
ผมก็จะพิมพ์เป็น 
Chrome, Firefox, Internet Explorer, Safari, Opera
Google trends

3. ถ้าคุณคลิกตรงนี้ก็จะไปที่หน้าสำรวจข้อมูลในเชิงลึกเช่นกัน
4. คุณสามารถลบ, แก้ไข หรือเปลี่ยน Keyword ได้จากช่องนี้ครับ (สามารถแสดงผลการสำรวจได้มากสุด 5 Keyword)
Google trends
จากภาพตัวอย่าง (หมายเลข 4.)คุณยังสามารถสำรวจความนิยม แบบเจาะลึกอีกหลายรูปแบบ เช่นการสำรวจแบบ ทั่วโลก, เฉพาะประเทศ หรือแม้แต่ระดับอำเภอก็ยังได้, รวมถึงข้อมูลการสำรวจแบบเจาะลึกอื่นๆด้วย ต้องลองใช้เองครับแล้วจะรู้ว่ามันเป็นเครื่องมือที่ใช้ไม่ยากเลย






 

 

B. สำรวจสถิติ, ความนิยม และMarketing share จาก Wikipedia

เนื่องจากการเก็บสถิติ ของ Wikipedia นั้นมีหลายหัวข้อ และมีการแจกแจงรายละเอียดค่อนข้างมาก เพื่อไม่ให้คุณผู้อ่านงงจนเกินไป ผมแนะนำว่าให้คุณเข้าไปเริ่มต้นจาก Page นี้ก่อนครับ Usage share of operating จากนั้นคุณอยากดูสถิติอะไรก็ให้เลือกที่ Contents (Pic B.)
Wikipedia Maketing share






 

 

C. สำรวจสถิติ และMarketing share จาก W3C Counter

W3C (World Wide Web Consortium) เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ทำหน้าที่ในการกำหนดมาตรฐานด้านการพัฒนาเว็บไซต์ และ เทคโนโลยี “เวิลด์ไวด์เว็บ (www) ก่อตั้งขึ้นมาในปี ค.ศ. 1994 โดยนาย ทิม เบิร์นเนอร์ ลี (Tim Berners-Lee) ผมให้ข้อมูลคล่าวๆแค่นี้นะครับ เพราะนอกเรื่อง
การสำรวจสถิติของ W3C นั้นเหมาะสำหรับ Website developers, Web master มากกว่าเพราะข้อมูลที่มีจะเป็นพวก สถิติ Browser, OS, Screen Resolutions เหล่านี้เป็นต้น คุณสามารถเข้าไปดูสถิติได้อยู่ 2 ทางครับ ให้คุณคิกตาม Link ข้างล่างเลย
W3C Counter Maketing share


ที่เส้นประสีส้ม ก็คือหัวข้อ หรือเมนูของสถิติครับ
W3schools Statistics
* เนื้อหาส่วนใหญ่ใน http://www.w3schools.com/ จะมุ่งเน้นไปในเรื่องของการให้การศึกษากับกลุ่มนักพัฒนาเว็บไซต์ครับมีอะไรน่าสนใจอีกเยอะเลย






 

 

D. http://www.netmarketshare.com/

http://www.netmarketshare.com/ จะเก็บสถิติเกี่ยวกับ ปริมาณการใช้ Web browser, OS (ระบบปฏิบัติการ), Search Engines, Social Media, Screen resolutions รวมถึงข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีที่น่าสนใจอีกมากมาย...ลองดูกันดีๆครับ คุณอาจจะชอบเว็บนี้แบบเดียวกับผมก็ได้
* เนื่องจากเว็บนี้มีลักษณะการอออกแบบที่เรียบง่าย ผมจึงแนะนำว่าให้คุณสังเกตดูดีๆ ว่าคุณต้องการดูสถิติอะไร ให้คุณดูภาพประกอบตามหมาย
http://www.netmarketshare.com/
1. Market Share Report : ในส่วนนี้จะมีเมนูอีก 4 หัวข้อ และในแต่ละหัวข้อก็จะมี Jump list ที่เป็นหัวข้อย่อยลงไปอีก
2.Country Filter: เลือกสำรวจเฉพาะประเทศ
3.TIMEFRAME: กำหนดช่วงเวลาในการสำรวจ
4. EXPORT TO: คุณสามารถ Save รายงานผลของของสถิติ เพื่อนำมาอ่านได้หลายนามสกุลไฟล์ เช่น pdf, World, Excel, xml เป็นต้น
5. DISPLAY: กำหนดรูปแบบการแสดงผลของสถิติ (แบบแผนภูมิแท่ง, เส้นกราฟ หรือแบบเปอร์เซ็นต์)








D. สำรวจข้อมูล และสถิติของประเทศไทยโดยเฉพาะจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ

คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากครับ เพราะเป็นเว็บไซต์ของไทย เหมาะกับทุกสายงาน,อาชีพ ถ้าคุณอยากรู้ว่ามีการเก็บสถิติอะไรบ้างใน เว็บของสำนักงานสถิติแห่งชาติของประเทศไทยก็คลิกเข้าไปดูได้ตาม Link นี้เลยครับ
เว็บของสำนักงานสถิติแห่งชาติของประเทศไทย

ยังมีอีกหลายเว็บที่น่าสนใจ ถ้าแค่นี้คุณยังไม่พอก็อ่านต่อได้ที่ ...
triangle