Create batch file to lock Folder (use a password) : (ล็อกFoder แบบใส่พาสเวิร์ด) Lock or Hide file , folder & Drive without any software. Page 2.

Hide file, folders & drives Contents 1. Create batch file to hide & lock folders (Use a password) 2. Create batch file to lock Folders(use a password) 3. Use attrib command hide file & folders 4. Hide file & folders behind picture 5.Lock or divert folders with CLSID 6.Lock or divert folders with CLSID (Another way.) 7. Create invisible folders 8. Using gpedit.msc to hide specified drives in computer. 9. Lock & Hide Drives using Hexadecimal. 10. Hide Drive With Disk Management Tool 11. Hide Drive with QuickEdit Mode on Diskpart 12. Hide file,folders behind Word document.docx & Excel document.xlsx Lock or Hide file , folder & Drive without any software. Page 2. Create batch file to lock Folder (use a password) ล็อก Folder แบบใส่พาสเวิร์ด วิธีการนี้ต่างจาก Page 1. ตรงที่มันเป็นการ Lock แบบใส่รหัส จากนั้นเบี่ยงเบน Folder ที่ Lock ด้วย CLSID อีกที ฉะนั้นเราจะเห็นหน้าตาของ Folder ที่เรา lock เปลี่ยนไปตามคุณสมบัติของ CLSID นั้นๆ   Lock folder แบบใส่Password 1. เข้าไปที่ Folder ที่คุณต้องการจะ lock (ควรสร้าง Folder ขึ้นมาใหม่เพื่อทดสอบดูก่อน ) > คลิกขวาบนที่ว่างเลือก New Text Document (หมายเลข1.) เพื่อเปิด โปรแกรม Note Pad จากนั้น ให้คุณ Copy คำสั่ง Batch File ข้างล่างนี้ลงไป (Pic 1.) @echo off :LOOP cls echo Enter Password for you...lock Folder set /p P=Password : set /p D=Confirm : if not %P%==%D% goto LOOP cd >DIR.TMP for /f "tokens=*" %%A in (DIR.TMP) do set B=%%A& set C=%%~dpA& if "%%A"=="%%~dA" (goto ERR) else (goto OK) :ERR @echo [ Err ] %B% Unlock... goto END :OK @echo [ OK  ] %B% Locked... Echo [.ShellClassInfo]>Desktop.INI Echo CLSID={645FF040-5081-101B-9F08-00AA002F954E}>>Desktop.INI attrib +r "%B%" attrib +r +s +h "%B%\Desktop.INI" echo @set /p P=Password : >"%C%Key.BAT" echo @if exist "%B%\%%P%%.BAT" call "%B%\%%P%%.BAT">>%C%Key.BAT echo @if not exist "%B%\%%P%%.BAT" echo Invalid Password...>>%C%Key.BAT del /arsh "%B%\*.BAT" echo del /arsh "%B%\Desktop.INI">"%B%\%D%.BAT" echo cd "%B%">>"%B%\%D%.BAT" echo start.>>"%B%\%D%.BAT" attrib +r +s +h "%B%\%D%.BAT" cd \ :END del "%B%\DIR.TMP" set A= set B= set C= set D= set P= 2. สั่ง Save as เป็น Lock.bat (คุณจะตั้งชื่ออื่นก็ได้ หมายเลข2.) ก็จะได้file ที่ชื่อ lock.bat มาตามรูป (3.) 3. Double click ที่ File lock.bat จะมีหน้าต่าง cmd เปิดขึ้นมาตามรูป ให้คุณใส่ Password > กด Enter และ Confirm Password > กด Enter (ในที่นี้Password ของผมเป็น 0123) (4.) 4. ปิดหน้าต่าง Folder ที่คุณ Lock จะเห็นว่า มีการสร้าง Key.bat ขึ้นมาหนึ่งFile และ Icon Folder ที่คุณLock จะเป็นรูป Recycle Bin และถ้าคุณ Double click ก็จะเป็นการเปิดถังขยะแทน 5. และถ้าต้องการปลด Lock ก็ให้ Double click Key.bat จะมีหน้าต่าง cmd เปิดขึ้นมา จากนั้นใส่ Password ลงไป แล้วกด Enter Folder ที่คุณ Lock ก็จะเปิด (Pic 2.)   Note 1. Code ของ Batch file นี้ได้มาจาก Pantip.com จากการทดลอง กับComputer 4เครื่อง Code ขั้นต้นไม่ค่อยนิ่งเท่าที่ควร บางทีต้องกด Refresh ก่อน หรือ กับบางเครื่องต้องสั่ง Restart แต่บางที ก็ใช้งานได้เลยก็มี 2. ผมแนะนำให้คุณดู CodeของKey ด้วยเพราะถ้าเกิดคุณทำ Key หายตรงนี้จะช่วยคุณได้ วิธีการก็คือ คลิกขวาที่ Key.bat เลือก> Edit 3. ถ้าคุณต้องการปลดล็อคอย่างถาวรก็ทำได้ 2 วิธี คือ ลบFile Lock.bat ทิ้งไป หรือ start...run...del /arsh Part of folder\desktop.ini 4. จาก Code ข้างบนอักษร{สีส้ม} เรียกว่าCLSID(Class Identifier) เป็นเเหมือนตัวแทนที่ใช้เรียกชื่อ Object ต่างๆในระบบWindows เป็นชุดตัวเลขระบบสุ่มขนาด 128bits ของMicrosoft ที่สร้างมาจากGUID(Globally Unique Identifier) ซึ่งใน Registry editor จะอยู่ที่ HKEY_CLASSES_ROOT\CLSID คุณสามารถที่จะเปลี่ยนเพื่อเบี่ยงเบนโฟลเดอร์ที่คุณ Lock ให้เป็นการเปิด Object อื่นๆได้ (ดูตารางข้างล่าง) ClSID Object เมื่อ Double click {241D7C96-F8BF-4F85-B01F-E2B043341A4B} Workspaces Center เปิด Workspaces Center {20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D} Computer เปิดหน้าต่าง Computer {06622D85-6856-4460-8DE1-A81921B41C4B} Open Control Panel เหมือนเราคลิก บนที่ว่าง  Icon Folder เป็นเหมือนเดิม {2559a1f3-21d7-11d4-bdaf-00c04f60b9f0} Run เหมือนเราคลิกบนที่ว่าง แต่ไอคอนจะเปรี่ยนเป็นแบบ Run {323CA680-C24D-4099-B94D-446DD2D7249E} Favorites เปิด Favoritesที่ Navigation Bar 5. ถ้าคุณไม่ต้องการให้ใครมาดู Code แบบง่ายๆ คุณก็สามารถแปลง Batch file ให้เป็น File .exe ได้ โดยใช้โปรแกรมจำพวก Batch Compiler หรือ ถ้ายังไม่อยากจะใกล้เกลือ แล้วถวิลหาด่าง ก็ WinRAR นี่แหละ