Review: Windows10 Technical Preview

Review: Windows10 Technical Preview Microsoft (MS) ปล่อย Windows10 Technical Preview ให้บุคคลทั่วไปได้ Download มาทดลองใช้ เมื่อวันที่ 2 ตค. 2014 และ สามารถใช้งานได้ถึง วันที่ 16 เมษายน 2015 และจะปล่อยรุ่นวางจำหน่ายจริงในปีช่วงกลางงปี - ปลายปี 2016 (ระยะเวลายังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน) คุณสามารถ Download มาทดลองใช้งานได้ฟรีจาก Link ข้างล่างนี้ - Download Windows10 Technical Preview ( ENG Webpage) - ดาวน์โหลด วินโดว์ 10 Technical Preview ( เว็บเพจภาษาไทย) ทุกรุ่นใช้หมายเลขผลิตภัณฑ์ (Product key) เหมือนกันคือ NKJFK-GPHP7-G8C3J-P6JXR-HQRJR   Windows 10 Technical Preview มีอะไร น่าสนใจ / ไม่น่าสนใจ, ดี หรือ ไม่เข้าท่าอะไรบ้าง? ผมไม่ได้เปรียบเทียบ หรือมองที่มันเป็น OS รุ่นใหม่ / เก่า หรือ มันมีตัวเลขรุ่นที่มากกว่าอะไรแบบนั้นเพียงอย่างเดียว, ไม่ได้รับจ้างเขียนบทความ เชียร์ หรือโจมตี ให้กับฝ่ายใดด้วย ฉะนั้นความคิดเห็นของผมอาจจะไม่ตรงกับ หลายๆคน .A. เรื่องที่ดีขึ้น 1. ตามคอนเซ็พท์ที่ MS ได้เขียนไว้ครับ "One product family, One platform, One store" คือ Windows 10 จะสามารถรันบนอุปกรณ์ที่หลากหลายขึ้น นับตั้งแต่ PC, Notebook, Tablet, Smart phone, X Box game แต่ในเรื่องของ GUI (ส่วนติดต่อกับคนใช้) ก็ยังคงต้องมีการแยกอยู่เหมือนเดิม เพราะรูปแบบการใช้งานของอุปกรณ์แต่ละชนิดมันไม่เหมือนกัน, Apps ของทุกอุปกรณ์ก็จะรวมมาอยู่ใน Store เดียวกัน 2. ถ้าคุณใช้ Windows 8, 8.1 ของแท้ ก็สามารถ Upgrade ไปใช้ Win 10 ฟรี (รวมถึง Win7 หรือเปล่าผมไม่รู้ เพราะไม่อยากเสียเวลาขุดคุ้ย) 3. เนื่องจาก MS มองว่าในปัจจุบันยังมีคนใช้ Windows 7 อยู่มาก ฉะนั้นใน Win 10 ที่รันบน PC, Notebook ทั่วไปซึ่งถือเป็นกลุ่มคนใช้ส่วนใหญ่จึงมีการออกแบบ (ผมขอเรียกเป็นการส่วนตัวว่า) ถอยหลัง ให้เป็นมิตร และ รู้สึกเป็นที่คุ้นเคย กับกลุ่มคนที่ไม่อยากจะปรับตัวให้เข้ากับ GUI แบบใหม่ที่เราเห็นใน Windows 8 และ 8.1 * ถ้าจะพูดให้ตรงไปเลยก็คือ มันเป็นนำเอา GUI ส่วนใหญ่ ที่มีอยู่แล้วใน Windows 8.1 มาผสมเข้ากับ Windows 7 ครับ เพราะความสามารถบางอย่าง ใน Win 8 ก็ยังไม่มี สำหรับคนที่ใช้ Windows 8, 8.1 ผมคิดว่าคุณใช้ Win 10 ได้ทันทีครับ ไม่จำเป็นต้องมาปรับตัวอะไรมาก 4. ตัด Metro UI, Start screen แต่แทนที่ด้วย Start menu และ รันโปรแกรมทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น Metro Apps หรือ Desktop Apps ในแบบหน้าต่างเหมือน Desktop mode ที่คนใช้งานส่วนใหญ่คุ้นเคย ตรงนี้ก็มีข้อดีในแง่ของลดความซ้ำซ้อน แต่ถ้าเป็นพวก Tablet, อุปกรณ์ Touch screen ต่างๆก็ยังมี Full screen ในแบบ Metro mode อยู่เหมือนเดิม การเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นจริงๆก็มีรายละเอียดปลีกย่อยที่มากกว่านี้ครับ ซึ่งก็หาอ่านได้ไม่ยากจากเว็บต่างๆ   .B. Task view / Multiple desktop เป็นของเล่นใหม่ในโลก Windows จริงหรือ?   การใช้งานทั่วไป Task views ใน Windows 10 ใช้ทำหน้าที่จัดการกับกลุ่มโปรแกรมที่กำลังเปิดอยู่ โดยการกำหนดเป็น Virtual desktop นั้นเอง, * ค่าเริ่มต้นของระบบจะสร้าง Virtual desktop ให้คุณก่อน 3 Virtual desktop และคุณสามารถเพิ่ม Virtual desktop โดยการคลิกที่เครื่องหมาย + โปรแกรมที่เปิดขึ้นมาในแต่ละ Virtual desktop สามารถย้ายไปไว้ที่ Virtual desktop อื่นได้ วิธีทำ (ดูภาพประกอบ) 1. คลิก Taskview บน Taskbar 2. เลื่อนเมาส์ไปบน Taskview ที่ต้องการ 3. คลิกขวาบนโปรแกรมที่คุณต้องการย้ายไปยัง Virtual desktop ที่ต้องการ ความเห็นเกี่ยวกับ Task view / Multiple desktop ใน Windows 10 1. ถ้าคุณไม่คุ้นเคยกับโปรแกรมในกลุ่มปรับแต่ง Desktop มันก็เป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานได้ ในระดับหนึ่ง และคุณอาจจะเรียกมันว่าเป็นของเล่นใหม่ก็ได้  2. แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบปรับแต่ง Windows หรือชอบติดตั้งโปรแกรมในกลุ่มจัดการ, ปรับแต่ง Desktopซึ่งของพวกนี้มีมานานแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะถึงคุณจะใช้ XP คุณก็สามารถหาดาวน์โหลดโปรแกรมพวกนี้มาปรับแต่ง Windows ของคุณให้มีสีสันในการใช้งานให้สนุกขึ้นได้ไม่ยาก และหลายๆโปรแกรมก็ทำได้ดีกว่า และสวยงามกว่ามาก 3. ถ้าให้ผมเปรียบเทียบโปรแกรมปรับแต่ง Desktop ที่มีความสามารถใกล้เคียงกับ Task views ใน Win 10 ก็คงจะเป็น 2 โปรแกรมนี้ คือ  - Desk space: เหมาะสำหรับคอมพิวเตอร์ที่ไม่มี Graphic card (การ์ดจอ) เพราะตัวโปรแกรมใช้ทรัพยากรเครื่องน้อยมาก - Cube desktop: ทำงานได้ Smooth สวยงามกว่า แต่ถ้าไม่มี Graphic card เวลาที่หมุนหน้า Desktop จะออกอาการกระตุกนิดหน่อย ในภาพตัวอย่างผมทดลองติดตั้งบน Windows 8 64 bit ก็ใช้งานได้ไม่มีปัญหา ทั้งสองโปรแกรมสามารถสร้าง Virtual desktop ได้ 6 หน้า เท่ากัน ในการใช้งานโปรแกรมจะมีลักษณะเป็น 3D คือถ้าต้องการเปลี่ยนหน้า Desktop มันจะเหมือนกับหมุนลูกเต๋ากลางอากาศ ------------------------------------------------------------------ โปรแกรมจัดการ, ปรับแต่ง Desktop อื่นๆที่น่าสนใจก็อย่างเช่น Moo0 Multi-Desktop: โปรแกรมตัวนี้ผมยังไม่ได้ทดลองใช้, Real desktop: เดสท็อป 3มิติ (ต้องใช้ Graphic card), T3 Desk โปรแกรมที่ช่วยลดความเกะกะของการทำงานที่หน้า Desktop ได้เป็นอย่างดี โปรแกรมในกลุ่มนี้ยังมีอีกมาก ลองเข้าไปดูจาก Link ครับ - Virtual Desktop Managers for Windows - รวมโปรแกรมตกแต่งdesktop +Theme ------------------------------------------------------------------ * สรุป: กรณีของ Task views - ผมคิดว่ามันก็เป็นโปรแกรมในกลุ่มจัดการ Desktop ตัวหนึ่ง จะต่างกันก็ตรงที่ MS นำTask views มาเป็น build in ในตัววินโดว์โดยไม่ต้องเสียเวลาติดตั้งเท่านั้น ไม่ถึงกับแปลกใหม่น่าตื่นตา - ถ้าเปรียบเทียบกันดีๆ ระหว่าง "มี" กับ "ไม่มี Task view". การทำงานบน Desktop มันก็แทบจะไม่มีความต่างกันเลย เพราะทุกๆโปรแกรมที่คุณเปิดในแต่ละ desktop มันก็ยังขึ้นมาโชว์เกะกะบน Taskbar อยู่เหมือนเดิม และคุณก็สามารถคลิกเปิดได้จากตรงนั้น ในแบบที่ไม่ต้องเสียเวลาสร้าง Multiple desktop ให้วุ่นวายด้วย   .C. Windows 10 ตัด GUI ส่วนไหนของ Windows 8, 8.1 ออกไปบ้าง 1. Metro mode หรือ Metro UI: ก็เพราะว่า MS ได้รวมทุก Apps ให้ทำงานในหน้าต่างแบบ Desktop Mode เพียง Mode โหมดเดียว (อธิบายไปแล้วในข้อ A/4) 2. Recent apps , Charm bar ถูกตัดออกไป แต่อาจยังไม่แน่นอน เพราะตัวเลือกใน Taskbar and Start Menu Properties >Navigation Tab ที่เคยเพิ่มเข้ามาใน Windows 8.1 ไม่ได้ถูกตัดออกไปซะทีเดียว แต่เป็นสีเทาใช้งานไม่ได้     .D. ปุ่ม Shutdown, Restart ใน Start menu อยู่ไกลเกินไป? ถ้าเทียบกับการใช้ปุ่ม Shutdown, Restart,.. ที่อยู่ใน Start menu ของ 7, Vista, XP มาก่อน เมื่อเทียบกับ Win 10 มันก็คงอยู่ไกลมือไปหน่อย โดยเฉพาะถ้าขยาย Start Menu ขึ้นข้างบน (1.) สำหรับ GUI ที่ใช้ในการ Shutdown, Restart, ... ที่ใกล้มือกว่าของ Windows 10 ก็เหมือนกับ Windows 8.1  - วิธีการ Shutdown, Restart, Sign out ที่สะดวกกว่า: คลิกขวาบนปุ่ม Start ก็จะเห็นตัวเลือกนี้เอง (2.) - อีกวิธีที่มีตัวเลือกมากกว่า (ใช้ได้กับ Windows ทุกรุ่น) : ถ้าคุณเปิดโฟลเดอร์ หรือ โปรแกรมอะไรอยู่ ก็ให้คุณคลิกเมาส์บนที่ว่างของ Desktop หรือ Taskbar หนึ่งครั้ง, จากนั้นกด Alt+F4 บนแป้นคีย์บอร์ดก็จะมี Dialog box เปิดขึ้นมาตามรูป (3)  ** ถ้าคุณไม่ได้เปิดโฟลเดอร์ หรือ โปรแกรมอะไรไว้ ก็ให้กด Alt+F4 ได้โดยไม่ต้องคลิกเมาส์บนที่ว่าง     การกลับมา Start Menu ผมเคยเขียนไว้แล้วใน Windows 8.1 ว่า โดยส่วนตัวผมจัดอยู่ในกลุ่ม ไม่ชอบ Start Menu, Start buttonแต่มันก็สวนกระแสกับคนใช้ส่วนใหญ่ที่ยังคุ้นเคยกับมันอยู่ แต่ถ้าจะให้ OK ผมก็อยากจะให้ MS ยังคงเหลือ Start screen เป็นทางเลือกให้กับกลุ่มคนที่ไม่ชอบ Start Menu แบบเก่าได้ใช้กันบ้าง ซึ่งตรงนี้ และอีกหลายๆเรื่องก็คงต้องรอดูที่รุ่นวางจำหน่ายกันอีกที เพราะเท่าที่ผมทดลองใช้อยู่นี่ ยังมีอีกหลายส่วนที่ยังขาดๆเกินๆ กันอยู่ สรุปท้ายเรื่อง - โดยส่วนตัวผมออกอาการไม่ค่อยปลื้ม Windows 10 เท่าไหร่นัก แต่ก็ต้องยอมรับว่า Windows 10 เป็นงานออกแบบที่แบ่งกันคนละครึ่งทางระหว่าง กลุ่มคนที่ยังชอบรูปแบบดั้งเดิม กับคนที่ชอบรูปแบบใหม่ที่เราเห็นกันใน Win 8, 8.1 ซึ่งผมก็ว่า MS ทำถูกนะ เพราะถ้าดูจากสถิติจากหลายๆแห่ง เอาจำนวนคนที่ใช้ตั้งแต่ Windows 7 ลงไปถึง XP รวมๆกันแล้วยังมีอีกจำนวนมากจริงๆ และ ยิ่งถ้ามองในมุมของธุรกิจ ก็ยิ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรอีกเหมือนกัน - ถ้า Windows 10 รุ่นวางจำหน่ายจริง มีหน้าตาหนีไม่ห่างไปจากนี้ และถ้าวิเคราะห์จากการใช้งานของกลุ่มคนใช้ Windows OS กลุ่มหลักอย่าง PC, Notebook โดยส่วนตัว ผมก็พอจะแยกความรู้สึกของคนใช้ได้อยู่ 2กลุ่ม คือ - กลุ่มคนที่ติดอยู่กับการใช้ Win XP - 7 : Win 10 ให้ประสบการณ์ในการใช้งานใหม่ๆน่าตื่นตากับคุณแน่นอน และ GUI ของ Win 10 ก็ได้รับการออกแบบเป็นมิตรกับคนใช้กลุ่มนี้มากขึ้นกว่า Windows 8 ด้วย (User friendly) - กลุ่มคนที่ใช้ Win 8 และโดยเฉพาะกลุ่มคนที่ใช้ Windows 8.1: ดูจากภาพรวมแล้ว Win 10 มันไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่ น่าตื่นตาเท่าที่ควร จนบางครั้ง ผมก็อดที่จะรู้สึกไปเองไม่ได้ว่า มันดูเหมือนว่า MS พยายามนำเหล้าใหม่ที่ชื่อ 8 มาใส่ในขวดเก่าที่ชื่อ 7 แล้วเปลี่ยนแปลงกันแค่ สี ฝาปิด ฉลาก กล่อง อย่างละนิดๆหน่อยๆยังไงไม่รู้ ทำไมไม่มี Windows 9 , หมายเลข Version และ Build ของ Windows แต่ละรุ่นบ่งบอกอะไรบ้าง , สามารถอธิบายที่มาของ Windows 10 ได้อย่างไร? หาคำตอบได้จาก Link นี้ครับ