แก้ปัญหาโลกแตก สร้างเว็บเพจด้วย Dream weaver แต่ Publish ขึ้น Bloggerไม่ได้

แก้ปัญหาโลกแตก สร้างเว็บเพจด้วย Dream weaver แต่ Publish ขึ้น Bloggerไม่ได้ ทุกวันนี้โปรแกรมที่ใช้เขียนเว็บ, เขียน Blog ก็มีให้เลือกมากมายนับไม่ถ้วน ทั้ง Free ware, Share ware แต่ก็อย่างว่า เรื่องของการใช้โปรแกรม ถ้าจะให้พูดอย่างแฟร์ๆ ก็ต้องบอกว่า ถนัดของใครก็ของมันมากกว่า ถ้าคุณเข้ามาอ่านบทความนี้ของผม ก็คิดซะว่า เป็นการแลกเปลี่ยนวิธีการทำงาน พร้อมๆ ถามความคิดเห็นของคุณผู้อ่านไปในตัวก็แล้วกันครับ เรื่องมีอยู่ว่า ผมคุ้นเคยกับการใช้ Dream Weaver (DW) เขียนบทความ, จัดการเว็บเพจมาตั้งแต่แรก เหตุผลก็เพราะ เมื่อเทียบกับโปรแกรมในกลุ่มเดียวกันแล้ว DW มีเครื่องมืออำนวยความสะดวกมากกว่า ทั้งการเขียนในมุมมองปกติ (Design view) และมุมมอง Code การเลือก Save file ทำได้หลายรูปแบบ แต่ตามปกติก็จะSaveเป็น *htm, *.html  ปัญหาก็คือ DW ไม่รองรับการ Upload file หรือการ Publish บทความกับ Google Blogger วิธีแก้ปัญหาเรื่องการ Publish ของผมก็ ทำตามนี้ 1. เปิด File. htm, .html ที่ได้ออกแบบจาก DW มาแสดงผลใน Chrome หรือ IE ก็ได้ 2. กด Ctrl+A ใน Brower > คลิกขวาเลือก Copy จากนั้น 3. ใน Windows Live writer (WLW) ใช้คำสั่ง Paste special (เลือก ☻ Keep Formatting) * กรณีของ IE ผลลัพธ์ของการ Copy / Paste ของแต่ละรุ่นจะไม่เหมือนกันเปะๆ เรื่องที่แสนจะน่าเบื่อ เมื่อแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ ด้วยวิธีการที่ได้อธิบายมานี้, ก่อนที่จะ Publish บทความขึ้น Blogger ผมต้องเสียเวลาแก้ไขเว็บเพจบางจุดใน WLW อีกครั้ง เหตุผลก็เป็นเพราะว่าเว็บเพจใน WLW ที่ได้จากการ Copy / Paste ไม่ได้คงรูปแบบเดิมทุกประการครับ ซึ่งมันต้องแก้ไขบางเรื่องดังต่อไปนี้... 1. ต้องตั้งค่าการจัดเรียงรูปภาพใหม่ (Align ment) 2. ต้องใส่ข้อความกำกับของภาพใหม่ (Alternate text, Title) 3. ต้องกำหนดระยะห่างของภาพ กับตัวอักษรใหม่  4. ตัวอักษรบางจุดเมื่อเทียบกับ File.html ต้นฉบับแล้ว Fontจะไม่ตรงตามที่กำหนดไว้ วิธีแก้ไขก็ทำได้โดย กด Ctrl+A ในหน้าต่าง WLW จากนั้นเลือก Font จากช่อง Font famiry อีกครั้งหนึ่ง 5. DW จัดเป็นโปรแกรมเขียนเว็บที่มีความสามารถสูง ถึงแม้ทุกอย่างที่ได้ออกแบบจาก DW จะแสดงผลได้ใน Browser แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เมื่อ Copy / Paste (ตามที่ผมอธิบายไปแล้ว) ลงใน WLW หลายคุณสมบัติ มันไม่ Support หรือบางทีก็ออกมาเพี้ยนๆ เอาแค่ตัวอย่างพื้นๆที่สุดก็เช่น Rollver Image, การใช้ AP Element เป็นต้น สองคำถามที่ผมอยากให้ผู้รู้ช่วยตอบ... ถ้าใครพอจะให้คำตอบผมได้ ก็ขอขอบคุณเป็นอย่างมากครับ จะอธิบายที่ Comment ข้างล่าง หรือจะฝากลิงค์ไว้ก็ได้ 1. Adobe Contribute (CT) ก็เป็นอีกโปรแกรมหนึ่งที่ Support การทำงานร่วมกับ Blogger, สามารถเปิด html file ที่ได้ออกแบบไว้แล้วโดยไม่ต้องแก้ไขใดๆเลย, และ มันยังใช้งานร่วมกับ DW ได้เป็นอย่างดีด้วย แต่...ผมอยากรู้ว่า ต้องตั้งค่าอย่างไร ถึงจะทำให้ User ของเรามีสถานะเป็น Administer Website?..ความจริง CT ก็มีระบบช่วยเหลือ (HOW DO I...) ที่เรียกอ่านได้จากตัวโปรแกรมนะ แต่ผมทดลองทำตามแล้ว ผลที่ได้ ก็ยังไม่สามารถตั้งค่าให้เป็น Administer Website อยู่เหมือนเดิม ตอนแรกคิดว่า อาจเป็นเพราะผมใช้โปรแกรมเถื่อนหรือเปล่า?... เลยตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ของถูกลิขสิทธิ์ (CT 6.5) แต่ผลของการตั้งค่าก็เป็นเหมือนเดิมอีกตามเคย สรุปก็คือมันใช้งานทุกอย่างได้ตามปกติ ยกเว้นไม่สามารถ Publish ขึ้นกับ Blogger ได้จริง สาเหตุก็เป็นเพราะการตั้งค่า User ของเรามันไม่มีสถานะเป็น Administer ตามที่โปรแกรมกำหนดไว้นั่นเอง 2. ใครพอจะแนะนำโปรแกรมที่ใช้ Upload html file ที่สามารถใช้ได้กับ Blogger บ้างครับ คือใจจริงก็อยากได้แค่โปรแกรม ที่เปิด *.html ได้ตรงตามที่ออกแบบไว้ แล้ว Upload ได้ทันทีโดยไม่ต้องมาเสียเวลาปรับแต่งซ้ำสองอีกแค่นั้นเอง

วิธีสำรองโพส, เปิด และจัดการทุกโพสของ Windows Live writer อย่างรวดเร็ว และง่ายกว่าเดิม

วิธีสำรองโพส, เปิด และจัดการทุกโพสของ Windows Live writer อย่างรวดเร็ว และง่ายกว่าเดิม ถ้าคุณใช้ Windows Live writer (WLW) ในการเขียน, เผยเพร่ (Publish)บทความบ่อยๆ มีบทความมากๆ, จะรู้ว่าการเรียกบทความเก่ามาแก้ไขผ่าน GUI ของโปรแกรมนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยน่าอภิรมณ์เท่าที่ควร เพราะ GUI ของโปรแกรมมันแคบ, และถ้าต้องการหาบทความที่มากกว่าที่โปรแกรมโชว์ไว้ก็ต้องเลื่อน Scroll bar A. วิธีจัดการกับทุกๆบทความที่มีอยู่ใน WLW ให้ง่ายขึ้น 1. เปิดเข้าไปตามนี้ครับ C:\Users\User Name\Documents\My Weblog Posts (เปลี่ยน User Name ให้เป็นชื่อผู้ใช้ของคุณ) ในโฟลเดอร์ที่ชื่อ My Weblog Posts นี้จะเป็นที่เก็บโพสทั้งหมดที่เราได้จัดการผ่าน WLW นั่นเอง โดยจะแบ่งออกเป็น 2โฟลเดอร์คือ Drafts: โพสที่คุณเขียน/ร่างแล้วSaveไว้ แต่ยังไม่ได้ Publish และจะรวมถึงโพสที่คุณได้ Publish ไปแล้วแต่ก็ Save การเปลี่ยนเปลงเอาไว้ด้วย Recent Posts: ทุกโพสที่คุณได้ Publish ไปแล้วจะถูกเก็บไว้ในโฟลเดอร์นี้ เมื่อเทียบกับ GUI ของ WLW ก็จะเป็นตามรูป 2. เพื่อให้ง่ายต่อการเรียกใช้โพสในภายหลัง ให้เลือกทำตามวิธีใดก็ได้ตามที่คุณถนัด 2.1 ลากโฟลเดอร์ (Draft, Recent Posts) ไปวางที่ Favorites (Create link in Favorites) 2.2 ลากโฟลเดอร์ไปวางที่ File Explorer บน Taskbar (Pin to file explorer) 2.3 คลิกขวาบนโฟลเดอร์ > Include in Libraries 2.4 คลิกขวาบนโฟลเดอร์ > Pin to Start  2.5 คลิกขวาบนโฟลเดอร์ Send to > Desktop (Create short) หรือ กด Alt ค้างไว้จากนั้นลาก Draft, Recent Postsไปวางที่ Desktop ก็ได้ ครั้งต่อไปถ้าคุณต้องการเปิดโพสเก่าคุณก็แค่ เข้าไปดับเบิลคลิก File ที่อยู่ในโฟลเดอร์ Draft, Recent Posts ก็ได้แล้ว, สะดวกกว่าเรียกผ่าน GUI ของโปรแกรมด้วย B. สำรองโพส เพื่อความปลอดภัย เปิดเข้าไปที่ C:\Users\User Name\Documents (เปลี่ยน User Name ให้เป็นชื่อผู้ใช้ของคุณ) จากนั้นให้คุณ Copy โฟลเดอร์ My Weblog Postsไปเก็บไว้ที่ใหนก็ได้ตามต้องการ C. การกู้คืนโพสที่ถูกลบโดยไม่ได้ตั้งใจ (ประโยชน์ของการสำรองโพส) ดูภาพประกอบข้างล่าง ถ้าคุณคลิกที่ File > Open recent post > ใน Recently post ถ้าคุณเลือกโพส จากนั้นคลิกที่ Delete มันเป็นตัวเลือกที่ใช้ในการลบโพสที่คุณ Publishไปแล้วจริงๆครับ ไม่ใช่ลบแค่ ลิสรายการที่มีอยู่ข้างในโปรแกรม และด้วยความไม่รู้ ผมก็เคยลบโพสของตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจมาแล้วเหมือนกัน (ตายหงค์ ตายห่าน!...งานเข้าแล้วสิ) ความจริง Google blogger ที่ผมใช้อยู่ มันก็มีวิธีการกู้คืนโพสที่ลบไปเหมือนกันนะ แต่ผมก็ไม่เคยใช้ การกู้คืนโพสที่ถูกลบ ด้วยไฟล์สำรองของ WLW : คุณก็แค่เปิดไฟล์สำรองโพสของ WLW (ต้องสำรองไว้ก่อน) จากนั้นก็คลิกPublishที่ตัวโปรแกรม แค่นี้โพสที่คุณลบไปโดยไม่ได้ตั้งใจก็กลับคืนมาแล้ว D. วิธีลบ "เฉพาะรายการโพส" ที่มีอยู่ใน Drafts และ Recently Posted ให้เหลือน้อยลงเพื่อให้ง่ายต่อการเรียกใช้งาน - ถ้าต้องการลบแค่รายการโพสในโปรแกรม โดยที่ไม่ต้องไปลบโพสที่ Publish ไปแล้วจริงๆ ให้คุณเข้าไปลบไฟล์ที่อยู่ในโฟลเดอร์Drafts, Recent Posts ออกไป, (ไม่ต้องลบไฟล์ cache.xml เพราะมันไม่เกี่ยว และถึงมันจะลบได้ แต่โปรแกรมก็จะสร้างขึ้นมาในภายหลังอยู่ดี)  - หรือ คุณจะย้ายไฟล์ที่ไม่ต้องการให้โชว์ในรายการไปไว้ในโฟลเดอร์ที่คุณสำรองไว้ (ตามข้อB.)ก็ได้

How to Change Windows+E & Click File Explorer icon on the Taskbar open to This PC on Windows 10 Instead of Quick Access

วิธีเปลี่ยน Windows + E และ การคลิกไอคอน File Explorer บน Taskbar ใน Windows 10 Insider Preview ให้กลับมาเปิด This PC แทนการเปิด Quick access วิธีทำ .เปิดโฟลเดอร์อะไรขึ้นมาก็ได้ > คลิกที่ View Tab > Options > ที่ Folder Options > General Tab ดูที่ตัวเลือก Open File Explorer to: ให้คุณเลือกเป็น This PC > Ok 1. ตัวเลือกของ Open file Explorer to: > ถ้าคุณเลือก This PC: เมื่อคุณคลิกบน File Explorer บนทาสบาร์  หรือ ถ้ากด Windows+E ก็จะเป็นการเปิด This PC > ถ้าคุณเลือก Quick access: เมื่อคุณคลิกบน File Explorer บนทาสบาร์  หรือ ถ้ากด Windows+E ก็จะเป็นการเปิด Quick access (เป็นค่า Default)   * ต่อไปนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับหัวเรื่อง แต่มันเกี่ยวข้องกับการใช้งาน Quick access รวมไปถึงการควบคุมการเข้าถึง Files/Folder ที่มีอยู่ใน Quick access ด้วยครับ ทำความรู้จักกับ Quick access ใน Windows 10 Insider Preview ไมโครซอร์ฟ ได้เปลี่ยนการใช้งาน Favorites ที่มีอยู่ใน Navigation Pane มาเป็น Quick access ซึ่งถ้าจะให้ผมอธิบายอย่างง่ายแล้ว Quick access จะมีลักษณะการทำงานที่รวมเอาความสามารถของ Favorites มาบวกกับ Recent Items นั่นแหละครับ ข้อดีของมันก็คือ ทำให้คนใช้คอมพิวเตอร์เข้าถึง Files/Folders ที่เคยใช้ได้ไวขึ้น เพราะ Files/Folders ที่เคยใช้งาน มันจะมาโชว์ใน Quick access โดยอัตโนมัติ แต่มันก็มีข้อเสีย ตรงที่ มันทำให้ไม่มีความเป็นส่วนตัวเท่าที่ควร อย่างเช่นถ้าคุณใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกับคนอื่น พวกเขาก็สามารถรู้ได้หมดว่า คุณเคยเปิด Files/Folders อะไรขึ้นมาใช้บ้าง ข้อเสียอีกเรื่องก็คือ ยิ่งใช้นานๆไป Shortcut ของ Files/Folders ที่คุณเคยเปิดมันก็จะมาโชว์ รกยาวเหยียดใน Quick access เต็มไปหมด ดูแล้วก็ไม่งามตาเท่าที่ควร แต่ทั้งนี้ทีมงานพัฒนา Windows 10 ก็มองเห็นปัญหาของความชอบที่ไม่เหมือนกันของคนใช้เป็นอย่างดีจึงได้สร้าง GUI ที่ใช้ควบคุม Quick access มาให้ใน Folder Options ครับ  ดูที่หมายเลข 2. Privency: เป็นตัวเลือกที่ใช้ควบคุมการเข้าถึง Files/Folder ที่มีอยู่ใน Quick access  Show recently used files in Quick access: โชว์ไฟล์ที่ใช้เมื่อเร็วๆนี้ใน Quick access   Show frequently used folders in Quick access: โชว์โฟลเดอร์ที่ใช้บ่อยใน Quick access * ถ้าคุณไม่ต้องการให้ตัวเลือกใดโชว์ใน Quick access ก็ให้เอาเครืองหมายถูกออกจาก Check box * ถ้าคุณต้องการลบ Short cut ของ Files/Folders ต่างๆที่มีอยู่ใน Quick access ให้คลิกที่ Clear

Deny all access to removable devices (Compare Settings in gpedit & regedit)

วิธีปิดกั้นการเข้าถึงอุปกรณ์เชื่อมต่อภายนอกทุกชนิด (gpedit.msc และ regedit) บทความนี้ผมจะแยกอธิบาย 2 หัวเรื่อง คือ A. วิธีปิดกั้น การเข้าถึงอุปกรณ์เชื่อมต่อภายนอกทุกชนิด ด้วยการตั้งค่าใน gpedit.msc (Group Policy Editor) อุปกรณ์พวกนี้ก็อย่างเช่น USB Flash drive, HD external, SSD external, DVD drive, Media Drive (Smart phones, Tablet), Floppy disk drives, Tape drives, เป็นต้น B. ตัวอย่างความสัมพันธ์ของการทำงาน และ การตั้งค่าใน gpedit.msc และ regedit (การตั้งค่าตามหัวเรื่องที่ 1.) หัวเรื่องนี้ขออธิบายโดยใช้ VDO ครับ * ถ้าคุณมีพื้นฐานเกี่ยวกับ gpedit.msc และ regedit จะข้ามไปดู VDO Clip อย่างเดียวก็ได้ OS Support: ตั้งแต่ Windows Vista - Windows 10, *ณ เวลาที่ผมเขียนบทความอยู่นี้ Windows 10 ยังเป็นรุ่น Insider Preview เปิด gpedit.msc กด Windows + r > พิมพ์ gpedit.msc > OK ความรู้พื้นฐาน: การตั้งค่าใน Group Policy จะแยกออกเป็น 2 กลุ่มคือ - Computer Configuration: ทุกๆการตั้งค่าที่อยู่ในกลุ่มนี้ จะมีผลกับทุก User - User Configuration: ทุกๆการตั้งค่าที่อยู่ในกลุ่มนี้ จะมีผล เฉพาะ User ที่กำลัง Sign in อยู่ในขณะนั้น (คอมพิวเตอร์บางเครื่องก็มีการแบ่งใช้งานกันหลาย User เช่น คอมพิวเตอร์ของบริษัท, สำนักงาน เป็นต้น) A. วิธีปิดกั้น การเข้าถึงอุปกรณ์เชื่อมต่อภายนอกทุกชนิด ด้วยการตั้งค่าใน gpedit.msc 1. ถ้าคุณต้องการตั้งค่าให้มีผลกับทุก User ให้คุณคลิกเข้าไปที่  Computer Configuration > Administrative Templates > System > Removable Storage Access 2. ถ้าคุณต้องการตั้งค่าให้มีผลเฉพาะ User ให้คุณคลิกเข้าไปที่  User Configuration > Administrative Templates > System > Removable Storage Access 3. ที่ Column ด้านขวา ดับเบิลคลิกที่ All Removable Storage Classes: Deny All Access 3.1 ตั้งค่าเป็น Enabled > คลิก OK การคืนค่า (Restore): ให้คุณกลับเข้ามาเปลี่ยนการตั้งค่าเป็น ☻ Not Configured หรือจะเลือกเป็น ☻ Disabled ก็ได้, การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกก็จะใช้งานได้ตามปกติ ข้อสังเกต: * ดูที่ Column ด้านขวาของ Removable Storage Access สิครับในนั้นมี policy (ขอเรียกง่ายๆว่าการตั้งค่าละกัน) อื่นๆที่น่าสนใจ และเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์เชื่อมต่อภายนอก อีกตั้งหลายหัวข้อ - ถ้าคุณไม่เข้าใจว่าการตั้งค่านั้นๆจะมีผลอย่างไร ให้อ่านคำอธิบายที่ Help: - ถ้าอยากรู้ว่าการตั้งค่านั้นๆ ใช้ได้กับวินโดว์รุ่นใดบ้างให้ดูที่ Support on: รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้งาน Group Policy อ่านได้จากบทความชุดนี้ Basic Group Policy B. ตัวอย่างความสัมพันธ์ของการทำงาน และ การตั้งค่า ใน gpedit.msc และ regedit B. ตัวอย่างความสัมพันธ์ของการทำงาน และ การตั้งค่า ใน gpedit.msc และ regedit การตั้งค่าตามที่ผมอธิบายใน ข้อ A. จะมีความสัมพันธ์กับข้อมูลใน Registry เสมอ แต่มันจะไปเกี่ยวข้อง, สัมพันธ์กับคีย์ใด, ข้อมูลใดนั้นให้คุณดูจาก VDO Clip ข้างล่างนี้ครับ (สำหรับคนที่ชอบศึกษาการทำงานของระบบในเชิงลึก) เพื่อให้เห็นความสัมพันธ์ของการทำงาน และ การตั้งค่าระหว่าง gpedit.msc และ regedit ให้ชัดเจ็นมากขึ้น ในVDOนี้ จะสมมุติว่า คอมพิวเตอร์ทดสอบของผมยังไม่เคยเปิดใช้งาน gpedit.msc เลยแม้แต่ครั้งเดียว (คล้ายๆกับเปิดซิง อะไรเยี่องนั้น...) https://www.youtube.com/watch?v=Z7m1enLM01U&feature=youtu.be VDO ต้นฉบับมีความคมชัดมากพอ ถ้าคุณดูผ่านNet แล้วภาพเบลอให้ปรับรายละเอียดใหม่  หรือไม่ก็ดาวน์โหลดไปดูแบบ Off line ก็ได้  ความสัมพันธ์ของการตั้งค่าใน gpedit & regedit ที่มากกว่าที่คุณเห็นใน VDO ใน VDO ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของตัวอย่างของความสัมพันธ์ของการตั้งค่าใน gpedit กับ Regedit ผมทำออกมาอย่างง่ายก็เพื่อไม่ให้คนดูที่มีพื้นฐานในกลุ่มเริ่มต้น ดูแล้วจะได้ไม่งงจนเกินไป แต่ความจริงแล้วมันมีอะไรที่มากกว่านั้น... ให้คุณทดลองใหม่ และผมอยากให้คุณสังเกต reg keys ดังต่อไปนี้ครับ... 1. เปิดเข้าไปที่ HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion ถ้าสมมุติว่า คุณเปิด gpedit.msc ขึ้นมาเป็นครั้งแรก จากนั้นกด Refresh (F5) ที่ Registry Editor 1 ครั้ง, ใน regedit ก็จะมีคีย์เริ่มต้นตามรูป (ข้างล่าง) 2. ขยาย Sub keys ของ Group Policy, Group Policy Editor และ Group Policy Objects ออกมาให้หมด 3. จากนั้นให้ทดลองตั้งค่าอะไรก็ได้ใน gpedit.mscแล้วกลับไป Refresh ที่ Regedit อีกครั้ง สังเกตดูว่ามีการสร้างข้อมูลใหม่ๆไว้ที่คีย์ไหนบ้าง?